ประวัติโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน
อาชีวศึกษาเชียงราย-พะเยา
ระบบการศึกษา
โครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวันรายการสิ่งของพระราชทาน

ประวัติโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนอาชีศึกษาเชียงราย-พะเยา

โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนอาชีศึกษาเชียงราย-พะเยา เดิมชื่อโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบำรุงที่ ๖๓ บ้านดอยหลวง ตำบลเวียง อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย ตั้งขึ้น เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๘ โดยราษฎรเผ่าม้ง โดยการนำของแสนเลาเกา แซ่ลี หัวหน้าบ้านร่วมกับชุดดารารัศมี กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนเขต ๕ปลูกอาคารเรียนชั่วคราว ๑ หลัง ขนาด ๔x ๘ เมตร ได้ติดต่อขอตำรวจตระเวนชายแดนจากกองร้อย ๕๐๔ บ้านโจ้โก้ อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย ไปทำการสอนโดยมี ส.ต.ต. เสาร์ และพลฯ ทอง (ไม่ทราบนามสกุล ) ทำการสอนครั้งแรกมีนักเรียน ๔๓คน ชาย ๓๘ คน หญิงคน ต่อมาปี พ.ศ. ๒๕๑๔ มีราษฎรอพยพมาอยู่อาศัยในพื้นที่ปัจจุบัน ประกอบกับทางราชการมีนโยบายอพยพลงมาอยู่ทางพื้นราบ เพื่อง่ายต่อการปกครอง จึงได้สร้างอาคารเรียนชั่วคราวขึ้น ๑ หลัง ต่อมามีนักเรียนมาเรียนเพิ่มขึ้นจนถึง พ.ศ. ๒๕๒๗ ทางกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนได้เริ่มปรึกษากับผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคเชียงราย และวิทยาลัยเทคนิคพะเยา ตกลงสร้างอาคารหลังใหม่ขึ้น โดยได้รับเงินจากผู้บริจาคสมทบทุน ทูลเกล้าถวายสมเด็จพระเทพรัตราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี และของ นายเสียง นุตตาลัย จำนวนเงิน ๑๗๐,๐๐๐ บาท (หนึ่งแสนเจ็ดหมื่นบาทถ้วน) และสร้างอาคารเสร็จเมื่อวันที่ ๑๕ เมษายน พ.ศ.๒๕๒๗ เป็นอาคารเรียนแบบ ๑๐๒/๒๕๒๖ ขนาด ๓ ห้องเรียน และเปลี่ยนชื่อจากโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน บำรุงที่ ๖๓ มาเป็นโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนอาชีวศึกษาเชียงราย-พะเยา
ต่อมาปี พ.ศ. ๒๕๓๕ ทางบริษัทดีไซด์ ๑๐๓ ร่วมกับสมาคมพัฒนาประชากร จังหวัดเชียงราย ได้จัดสร้างศูนย์ฯ นี้ให้กับทางกรมตำรวจ

ข้อมูลและสภาพทั่วไป
บ้านกิ่วกาญจน์ ตั้งอยู่หมู่ที่ ๔ ตำบลริมโขง อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย พิกัด พีซี ๓๓๕๔๙๓ มีราษฎรอาศัยอยู่รวม ๘๘๖ เป็นชาย ๔๕๙ คน หญิง ๔๓๗ มีครัวเรือน ๑๖๖ ครัวเรือน พื้นที่หมู่บ้านตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ มีเนื้อที่ประมาณ ๗๕๐ ไร่ มีอาณาเขตติดต่อกับหมู่บ้านใกล้เคียงดังนี้

  • ทิศเหนือ
  • ติดต่อกับป่าสงวนแห่งชาติ
  • ทิศใต้
  • ติดต่อกับป่าสงวนแห่งชาติ
  • ทิศตะวันออก
  • ติดต่อกับบ้านเมืองกาญจน์ ระยะทาง ๓ กิโลเมตร
  • ทิศตะวันตก
  • ติดต่อกับบ้านแม่ไร่ ระยะทาง ๖ กิโลเมตร

    เป็นประปาภูเขา หมู่บ้านมีไฟฟ้าใช้ มีวัดและโบสถ์ ระยะทางจากหมู่บ้านถึงอำเภอ เป็นทางราดยาง ๑๘ กิโลเมตร

    สภาพทางเศรษฐกิจ
    ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำไร่ ทำนา ค้าขาย และเลี้ยงสัตว์ การทำไร่ ส่วนใหญ่ ปลูกข้าวโพด

    ความรู้การศึกษา
    ในปีที่ผ่านมีผู้จบการศึกษาภาคบังคับ (ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖)

    ระบบการศึกษา
    โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนอาชีวศึกษาเชียงราย-พะเยา เป็นโรงเรียนที่ตั้งขึ้นในสังกัดของกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ ๓๒ จังหวัดพะเยา กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน
    เปิดทำการสอนตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๐๘ โดยได้รับเด็กจากหมู่บ้านกิ่วกาญจน์ ดำเนินการสอนเป็น ๒ ภาคเรียนดังนี้
  • ภาคเรียนที่ ๑ เปิด ๑๒ พฤษภาคม ถึง ๘ ตุลาคม
  • ภาคเรียนที่ ๒ เปิด ๑ พฤศจิกายน ถึง ๒๔ มีนาคม

  • อาคารสถานที่และสิ่งอำนวยความสะดวก
    ทางโรงเรียนมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ซึ่งได้รับความสนับสนุนงบประมาณจากหน่วยงานต่างๆดังนี้
    สิ่งก่อสร้าง
    ผู้ให้การสนับสนุน
    ๑) อาคารเรียน ๑ นายเสียงทอง บุตาลัย, นายธนรรถ ตัถยายุทธ
    ๒.โรงอาหาร ชมรมนักศึกษาสถาปัตย์ฯ จุฬาลงกรณ์
    ๓.ห้องส้วม ๑ บริษัทดีไซน์ ๑๐๓ กรุงเทพฯ
    ๔.ห้องส้วม ๒ หลวงพ่อเจริญ จันทสีโล คณะครูและชาวบ้าน

    จำนวนครูและนักเรียน
    เมื่อเริ่มก่อตั้งมีนักเรียน ๔๓ คน ครูตำรวจตระเวนชายแดน ๒ นาย ปัจจุบันมีนักเรียนทั้งสิ้น๑๖๘ คน เป็นชาย ๘๘ คน หญิง ๘๐คน ครูตำรวจตระเวนชายแดน ๖นาย

    ตารางแสดงจำนวนครูและคุณวุฒิ
    ยศ - ชื่อ - นามสกุล
    คุณวุฒิ
    หน้าที่
    ๑. ด.ต. ปรีชา วงศ์จักร
    ม.๖
    ครูใหญ่, ประจำชั้นปะถมศึกษาปีที่ ๒
    ๒.ด.ต. ชาญ ประพันธ์กุล
    พ.ม.
    ครูประจำชั้นปะถมศึกษาปีที่ ๑
    ๓. จ.ส.ต.จีรพงศ์ ธรรมวงศ์
    ม.ศ.๓
    ครูประจำชั้นปะถมศึกษาปีที่ ๔
    ๔. ส.ต.ท.ทองสุข วงค์ขัติ
    น.บ.
    ครูประจำชั้นปะถมศึกษาปีที่ ๖
    ๕ . ส.ต.ท.สนั่น กันทะจักร์
    ปวช.
    ครูประจำชั้นปะถมศึกษาปีที่ ๕
    ๖ .ส.ต.ท.สมคิด ขันใจ
    ม. ๖
    ครูประจำชั้นปะถมศึกษาปีที่ ๓

    ตารางแสดงจำนวนนักเรียน
    ชั้น
    ชาย
    หญิง
    รวม
    เด็กเล็กก่อนวัยเรียน
    ๓๑
    ๓๒
    ๖๓
    ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑
    ๑๘
    ๑๖
    ๓๔
    ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒
    ๑๑
    ๑๗
    ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓
    ๑๖
    ๑๒
    ๒๘
    ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔
    ๑๒
    ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕
    ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖
    รวม
    ๘๘
    ๘๐
    ๑๖๘

    โครงการตามพระราชดำริที่โรงเรียนดำเนินการอยู่
    เพื่อเป็นการพัฒนาเด็กและเยาวชนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สมเด็จพระเทพรัตราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้ดำเนินงานโครงการตามพระราชดำริฯ ขึ้นในโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ตามแผนพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ( ๒๕๓๕–๒๕๓๙)ดังต่อไปนี้

    งานด้านอาหารและโภชนาการและสุขภาพอนามัย
    โครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน
    เริ่มดำเนินการเมื่อปี ๒๕๒๔
    ครูผู้รับผิดชอบโครงการคือ ส.ต.ท. สมคิด ขันใจ
    ผู้ดำเนินการโครงการ คือ ศปก. พะเยา,สำนักงานเกษตรอำเภอเชียงของ

    ผลของการดำเนินการโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวันในปัจจุบัน มีดังนี้
    กิจกรรม
    ผลการดำเนินงาน
    หน่วยงานที่ให้การสนับสนุน
    ๑.การปลูกพืชผัก ๕๓ แปลง สำนักงานเกษตรอำเภอเชียงของศปก.พะเยา
    ๒.การปลูกพืชไร่
    -
    สำนักงานเกษตรอำเภอเชียงของศปก.พะเยา
    ๓. การปลูกไม้ผล ๔๓ ต้น สำนักงานเกษตรอำเภอเชียงของศปก.พะเยา
    ๔.การเลี้ยงสัตว์ ไก่พันธุ์ไข่ ๔๒ ตัว,
    ไก่พื้นเมือง๒๐ ตัว
    ปศุสัตว์อำเภอเชียงของศปก.พะเยา
    ๕.การเฝ้าระวัง มีนักเรียนที่มีภาวะต่ำกว่า
    เกณฑ์มาตราฐานจำนวน ๙๒คน
    หมวดพื้นที่กองกำกับการตำรวจ
    ตระเวนชายแดน๓๒
    ๖.การประกอบการอาหาร ประกอบเลี้ยงอาหารกลางวัน๕
    ครั้ง/สัปดาห์ อาหารเสริม๓ครั้ง
    -

    รายการสิ่งของพระราชทาน
    ปีการศึกษา ๒๕๓๒– ๒๕๓๓
    ๑. เมล็ดพันธุ์ผัก ๒ งวด จำนวน ๒ชุด
    ๒. พระราชทานค่าเครื่องปรุงอาหาร ๒ งวด เป็นเงิน ๑,๐๘๐ บาท
    ๓. ต้นพันธุ์มะม่วง ๒๐ ต้น

    ปีการศึกษา ๒๕๓๓– ๒๕๓๔
    ๑. เมล็ดพันธุ์ผัก ๑ งวด จำนวน ๑ชุด

    ปีการศึกษา ๒๕๓๔– ๒๕๓๕
    ๑. เมล็ดพันธุ์ผัก ๒งวด จำนวน ๒ชุด
    ๒. โครงการเลี้ยงไก่พื้นบ้าน ๖๖๐ บาท

    ปีการศึกษา ๒๕๓๕– ๒๕๓๖
    ๑. แป้งถั่วเหลือง ๓ งวด จำนวน ๔๐ กิโลกรัม
    ๒.น้ำตาลทราย ๓ งวด จำนวน ๔๐ กิโลกรัม
    ๓. โปรตีนผง ๓ งวด จำนวน ๒๐ กิโลกรัม
    ๔. โครงการเลี้ยงเป็ดพันธุ์ไข่ ๓,๐๕๐ บาท
    ๕. เมล็ดพันธุ์ผัก ๒งวด จำนวน ๒ชุด

    ปีการศึกษา ๒๕๓๖– ๒๕๓๗
    ๑. แป้งถั่วเหลือง ๒ งวด จำนวน ๔๐ กิโลกรัม
    ๒.น้ำตาลทราย ๒ งวด จำนวน ๔๐ กิโลกรัม

    ปีการศึกษา ๒๕๓๗– ๒๕๓๘
    ๑. แป้งถั่วเหลือง ๒ งวด จำนวน ๓๐กิโลกรัม
    ๒.น้ำตาลทราย ๒ งวด จำนวน ๓๐ กิโลกรัม

    แหล่งอ้างอิง : สำนักงานโครงการส่วนพระองค์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ
    สยามบรมราชกุมารี. (๓๙)
    (เหนือ ท๑ ส๖๕๒๖ ๒๕๓๘)