ประวัติโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนชนัตถ์ปิยะอุย ข้อมูลนักเรียน
การดำเนินโครงการ ผลการดำเนินโครงการ

ประวัติโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนชนัตถ์ปิยะอุย

บ้านเจดีย์ทอง หมู่ที่ ๓ ตำบลปอ อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย
เริ่มแรกก่อนจัดตั้งโรงเรียนมีประวัติความเป็นมาพอสรุปได้ว่า ชาวบ้านได้จัดสร้างอาคารเรียนชั่วคราวขึ้น โดยชุดรัศมีที่ ๘๘ บ้านหนองเตา ตำบลปอ อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย
ปี พ.ศ.๒๕๑๒ เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน ชุดรัศมีที่ ๘๘ และชาวบ้านหนองเตาเผ่าเย้าเห็นว่าหมู่บ้านอยู่ในสถานการณ์ไม่ปลอดภัยจากผู้ก่อการร้าย ซึ่งมีการแทรกซึมอยู่ทั่วๆ ไป จึงได้อพยพชาวบ้านจากหมู่บ้านหนองเตา จำนวน ๒๗ หลังคาเรือน ไปอยู่ที่แห่งใหม่ซึ่งปลอดภัยกว่า และตั้งชื่อหมู่บ้านนี้ว่า บ้านดอนเจดีย์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงเรียนในปัจจุบัน
สำหรับที่ดินจัดสร้างโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนชนัตถ์ปิยะอุย เป็นที่ดินที่ไม่มีผู้ใดจับจองเป็นเจ้าของ จึงได้แผ้วถางปลูกสร้างอาคารเรียน และนายจ้อยเซ็น แซ่ฟุ้ง ได้บริจาคที่ดินให้อีก จำนวน ๓ ไร่ โดยมี พันตำรวจโท สมาน เพิ่มวารี ตำแหน่ง ผบ.ร้อย ๓ ตชด. อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา เป็นผู้รับมอบ
เมื่อวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๓ ได้รับการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ ให้จัดตั้งเป็นโรงเรียนประถมศึกษาเอกเทศ
จากนั้นไม่นานหลังจากสร้างโรงเรียนแล้วเสร็จพวกเย้าที่อพยพดังกล่าวเห็นว่า บ้านเมืองสงบเรียบร้อยแล้ว ประกอบกับมีที่ดินทำกินอยู่ที่หมู่บ้านหนองเตา จึงได้ย้ายกลับถิ่นฐานเดิม หลังจากนั้นชาวเขาเผ่าม้ง จากที่ต่างๆ จึงได้ย้ายมาอยู่แทน และเมื่อปี พ.ศ.๒๕๓๘ ทางราชการได้เปลี่ยนชื่อหมู่บ้านดอนเจดีย์เป็น บ้านเจดีย์ทอง
โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนชนัตถ์ปิยะอุย ในปัจจุบันก่อตั้งขึ้นเมื่อ ๙ มกราคม ๒๕๑๗ โดยได้รับเงินส่วนหนึ่งจากนางชนัตถ์ ปิยะอุย ที่ทูลเกล้าฯ ถวายโดยเสด็จพระราชกุศลแด่ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และได้รับความร่วมมือจากชาวบ้านเจดีย์ทอง ซึ่งเป็นชาวไทยภูเขาเผ่าเย้าและม้งที่เห็นความสำคัญของการศึกษา ต้องการให้บุตรหลานมีความรู้ ความสามารถ อ่านออกเขียนได้ จึงร่วมกับกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดน เขต ๕ อำเภอแม่จริม จังหวัดเชียงใหม่ จัดสร้างอาคารเรียนลักษณะถาวร ๑ หลัง ขนาด ๘.๖๐ x ๒๗.๒๐ เมตร ๓ ห้องเรียน บ้านพักครู ๑ หลัง พร้อมห้องน้ำ และให้ชื่อโรงเรียนนี้ว่า โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนชนัตถ์ปิยะอุย (ร.ร.ตชด.บำรุงที่ ๙๙)
นอกจากจะทำการสอนตามหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการแล้วโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนชนัตถ์ปิยะอุย ได้ดำเนินงานโครงการตามพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ๗ โครงการ คือ
๑) โครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน
๒) โครงการควบคุมโรคขาดสารไอโอดีน
๓) โครงการส่งเสริมคุณภาพการศึกษา
๔) โครงการนักเรียนในพระราชานุเคราะห์ฯ
๕) โครงการส่งเสริมสหกรณ์
๖) โครงการฝึกอาชีพ
๗) โครงการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ปี ๒๕๓๘ กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ ๓๒๖ กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ ๓๒ ได้ก่อสร้างโรงครัว จำนวน ๑ หลัง ขนาด ๓.๕๐ x ๙ เมตร จำนวน ๑ หลัง
ปี ๒๕๓๙ วิทยาลัยเทคนิคสมุทรปราการ ได้บริจาคเงิน จำนวน ๔๐,๐๐๐ บาท (สี่หมื่นบาทถ้วน) ก่อสร้างโรงอาหาร จำนวน ๑ หลัง
เมื่อวันที่ ๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๙ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมโรงเรียนแห่งนี้ และติดตามผลการดำเนินงานโครงการตามพระราชดำริทั้ง ๗ โครงการ และทรงปลูกต้นมะม่วงพันธุ์โชคอนันต์ จำนวน ๑ ต้น
ปี ๒๕๓๙ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนชนัตถ์ปิยะอุย ได้ดำเนินงานโครงการตามพระราชดำริ เพิ่มเติมอีก ๑ โครงการคือ โครงการส่งเสริมโภชนาการและสุขภาพอนามัยแม่และเด็กในถิ่นทุรกันดาร รวมดำเนินการทั้งสิ้น ๘ โครงการ
ปี ๒๕๔๕ กรมประมงได้ขุดบ่อปลา จำนวน ๑ บ่อ
ปี ๒๕๔๕ สหกรณ์จังหวัดเชียงรายได้จัดสร้างอาคารสหกรณ์ จำนวน ๑ หลัง
เมื่อวันที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๔๖ ท่านผู้หญิงชนัตถ์ ปิยะอุย ได้สร้างอาคารเรียน ขนาด กว้าง ๖ เมตร ยาว ๓๓.๒ เมตร จำนวน ๔ ห้องเรียน ห้องพักครู ๑ ห้อง ห้องส้วม ๖ ห้อง
ปัจจุบันโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนชนัตถ์ปิยะอุย สังกัด กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ ๓๒ เปิดทำการเรียนการสอนตั้งแต่ชั้นเด็กก่อนวัยเรียน ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ มีนักเรียนชาย จำนวน ๗๖ คน นักเรียนหญิง จำนวน ๘๓ คน รวม ๑๕๙ คน มีครูตำรวจตระเวนชายแดนทำการสอน จำนวน ๙ นาย โดยมีจ่าสิบตำรวจดอน สมควร เป็นครูใหญ่
โรงเรียนมีพื้นที่ทั้งหมด ๘ ไร่

ข้อมูลนักเรียน
ระบบการศึกษา
โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนชนัตถ์ปิยะอุย สังกัดกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พื้นที่รับผิดชอบของกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ ๓๒ จังหวัดพะเยา
โรงเรียนเปิดทำการสอนตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๑๗ ตามหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการ ปัจจุบันเปิดสอนตั้งแต่ชั้นเด็กเล็กก่อนวัยเรียน ถึง ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ ดำเนินการสอนเป็น ๒ ภาคเรียน ดังนี้
  • ภาคเรียนที่ ๑ เปิด ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๔๖ ถึง ๑๓ ตุลาคม ๒๕๔๖
  • ภาคเรียนที่ ๒ เปิด ๓ พฤศจิกายน ๒๕๔๖ ถึง ๓๑ มีนาคม ๒๕๔๖

  • จำนวนครูและนักเรียน
    เมื่อเริ่มก่อตั้ง ครูตำรวจตระเวนชายแดน ๒ นาย
    ปัจจุบันมีนักเรียน ๑๖๕ คน เป็นชาย ๘๓ คน หญิง ๘๒ คน มีครูตำรวจตระเวนชายแดน ๘ นาย ครูอาสาสมัคร จำนวน ๑ คน

    ตารางแสดงจำนวนนักเรียน ภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๔๖
    ชั้น
    ชาย
    หญิง
    รวม
    เด็กก่อนวัยเรียน
    ๒๔
    ๒๑
    ๔๕
    ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑
    ๕๙
    ๔๕
    ๑๐๔
    ประถมศึกษาปีที่ ๑
    ๑๔
    ๒๑
    ประถมศึกษาปีที่ ๒
    ๑๑
    ๑๔
    ๒๕
    ประถมศึกษาปีที่ ๓
    ๑๐
    ๑๙
    ๒๙
    ประถมศึกษาปีที่ ๔
    ๑๖
    ๑๘
    ประถมศึกษาปีที่ ๕
    ๑๑
    ประถมศึกษาปีที่ ๖
    ๑๓
    ๑๖
    รวม
    ๘๓
    ๘๒
    ๑๖๕

    การศึกษาต่อของนักเรียนและการประกอบอาชีพของนักเรียน (ปีการศึกษา ๒๕๔๑ - ๒๕๔๕)
    ปัจจุบันมีนักเรียนที่จบชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ จำนวน ๓๑ คน ศึกษาต่อ ๒๔ คน ประกอบอาชีพ ๗ คน

    การดำเนินโครงการ
    เพื่อเป็นการพัฒนาเด็กและเยาวชนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ดำเนินงานโครงการตามพระราชดำริขึ้น ในโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ตามแผนพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ระยะที่ ๓ ( ๒๕๔๕ – ๒๕๔๙ ) มีการดำเนินงานดังนี้

    โครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน
    ครูผู้รับผิดชอบ คือ ด.ต.กิติศักดิ์ เวียงแก้ว
    หน่วยงานที่ให้การสนับสนุน คือ สำนักงานส่งเสริมการเกษตรจังหวัดเชียงราย สำนักงานเกษตรอำเภอเวียงแก่น สำนักงานปศุสัตว์อำเภอเวียงแก่น
  • แหล่งน้ำใช้ในการเกษตร น้ำห้วยกุ๊ก
  • แหล่งน้ำสำหรับดื่ม น้ำห้วยกุ๊ก
  • ปัจจุบันมีการประกอบเลี้ยง ๕ ครั้ง / สัปดาห์
  • ผู้ประกอบเลี้ยง คือ คณะครู นักเรียน และผู้ปกครองนักเรียน
    การเฝ้าระวัง ในปีการศึกษา ๒๕๔๖ ภาคเรียนที่ ๑ ผลการตรวจภาวะโภชนาการเมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานแล้ว มีนักเรียนน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน จำนวน ๕๔ คน คิดเป็นร้อยละ ๓๗.๕๐ ค่อนข้างน้อย จำนวน ๓๘ คน คิดเป็นร้อยละ ๒๖.๓๙ มีส่วนสูงต่ำกว่าเกณฑ์ มาตรฐาน จำนวน ๖๖ คน คิดเป็นร้อยละ ๔๕.๘๓ ค่อนข้างเตี้ย จำนวน ๓๘ คน คิดเป็นร้อยละ ๒๖.๓๙
  • โรงเรียนได้รับการสนับสนุนค่าอาหารกลางวันจากกระทรวงศึกษาธิการ โดยได้รับในอัตรา ๖ บาท/คน/วัน และได้อาหารเสริม ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๔๖ เป็นนมผงพระราชทาน จำนวน ๙ กระสอบ
    การให้อาหารเสริม มีการดำเนินการ ดังนี้
    ๑.ชงนมให้นักเรียนดื่มในอัตรานมผง ๓๐ กรัม/น้ำ ๒๐๐ ซีซี นักเรียนประถมศึกษาดื่มวันละ ๑ แก้ว นักเรียนก่อนประถมศึกษาดื่มวันละ ๒ แก้ว
    ๒.ของหวาน
    ๓.ผลไม้

  • ผลการดำเนินโครงการ
    อัตราการมีน้ำหนักตามเกณฑ์อายุ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๔๖
    ระดับชั้น จำนวนนักเรียนทั้งหมด จำนวนนักเรียน ส่วนสูงตามเกณฑ์อายุ
    ที่วัดส่วนสูง เตี้ย ค่อนข้างเตี้ย ปกติ ค่อนข้างสูง + สูง
    คน ร้อยละ นักเรียน ร้อยละ นักเรียน ร้อยละ นักเรียน ร้อยละ นักเรียน ร้อยละ
    ๑.
    ๒๕๓๔
    ๑๑๘
    ๑๐๐
    ๙๗
    ๒๘.๒๐
    ๒๑
    ๑๗.๘๐
    ๒๑
    ๑๗.๘๐
    ๒๑
    ๑๗.๘๐
    ๒.
    ๒๕๓๕
    ๑๐๙
    ๑๐๐
    ๙๐
    ๘๒.๕๗
    ๑๙
    ๑๗.๔๓
    ๒๑
    ๑๗.๘๐
    ๒๑
    ๑๗.๘๐
    ๓.
    ๒๕๓๖
    ๑๑๓
    ๑๐๐
    ๙๗
    ๘๕.๘๔
    ๑๖
    ๑๔.๑๖
    ๒๑
    ๑๗.๘๐
    ๒๑
    ๑๗.๘๐
    ๔.
    ๒๕๓๗
    ๑๐๒
    ๑๐๐
    ๘๐
    ๗๘.๔๓
    ๒๒
    ๒๑.๕๗
    ๒๑
    ๑๗.๘๐
    ๒๑
    ๑๗.๘๐
    ๕.
    ๒๕๓๘
    ๘๖
    ๑๐๐
    ๘๖
    ๑๐๐
    -
    -
    ๒๑
    ๑๗.๘๐
    ๒๑
    ๑๗.๘๐

    แหล่งอ้างอิง : สำนักงานโครงการส่วนพระองค์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี.(๒๐๐)
    (****)