ประวัติโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านหาดทรายเพระบบการศึกษา
โครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวันรายการสิ่งของพระราชทาน

ประวัติโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านหาดทรายเพ

ในปี พุทธศักราช ๒๕๑๖ คะกรรมการหมู่บ้านหาดทรายเพ ได้มีมติเห็นพ้องต้องกันว่า การที่จะให้บุตรหลานของตนเดินทางไปเรียนหนังสือที่โรงเรียนบ้านท่าหนามแก้วมีอุปสรรคหลายอย่างด้วยกัน ทั้งมีระยะทางไกล ในฤดูฝนก็ไม่สามารถเดินทางไปเล่าเรียนได้ เนื่องจากน้ำท่วมทาง ต้องขาดเรียนเป็นเวลานาน เป็นเหตุให้บุตรหลานไม่สามารถได้รับการศึกษาเท่าที่ควร จึงได้พร้อมใจกันยื่นเรื่องราวขอจักตั้งโรงเรียน เสนอต่อที่ มว.ตชด.๔๑๓ (เดิม) ซึ่งตั้งอยู่ที่บ้านไชยบุรี อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครนครพนม เพื่อขอครูตำรวจตระเวนชายแดนมาทำการสอน แต่การขอตั้งโรงเรียนครั้งนี้ไม่เป็นผลสำเร็จเพราะทางกองกำกับการตวจตระเวนชายแดน เขต ๔ จังหวัดอุดรธานี ไม่สามารถจัดหาครูมาสอนได้ จนกระทั่งต่อมาในปีพุทธศักราช ๒๕๑๙ เหตุการณ์บ้านเมืองได้เปลี่ยนแปลงไปมาก กล่าวคือหมู่บ้านตกอยู่ในเขตคุกคามของฝ่ายตรงข้าม ทั้งภายในและภายนอกประเทศ ราษฎรในหมู่บ้านได้รับความเดือดร้อน นักเรียนไม่กล้าจะเดินทางไปโรงเรียน หรือนาน ๆ ไปครั้ง นายหนูดี พรมดี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านพร้อมราษฎร จึงได้ร้องขอไปยังกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนเขต ๔ อีกครั้งหนึ่ง เพื่อที่จะให้ส่งครูไปทำการสอน โดยยินดีจัดทำอาคารสถานที่และที่ดิน สำหรับทำการก่อสร้างโรงเรียนเป็นการชั่วคราว ทั้งเป็นการขอเข้าหน้าที่ตำรวจไปอยู่เพื่อให้ความอบอุ่นแก่หมู่บ้านอีกทางหนึ่งด้วย ทางกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดน เขต ๔ จึงได้ส่งเรื่องไปยังกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน เพื่อขอดำเนินการจัดตั้งโรงเรียนขึ้นที่บ้านหาดทรายเพและได้รับอนุมัติให้จัดตั้งโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านwbr>wbr<wb ตั้งอยู่หมู่ที่ ๑๐ บ้านหาดทรายเพ ตำบลพระทาย อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม ในเนื้อที่ ๑๒ ไร่ ขึ้น เมื่อวันที่ ๑๓ กันยายน ๒๕๒๐ ได้ส่งครูตำรวจตระเวนชายแดนมาทำการสอน ๒ นาย คือ
๑. ส.ต.อ. เศกสิทธิ์ หิรัญอร
๒.ส.ต.ต.ประสพ วงศ์สอน
ระยะแรกการก่อสร้างอาคารเรียนชั่วคราวยังไม่เสร็จ จึงต้องอาศัยศาลาวัดบ้านหาดทรายเพ จนถึงปีการศึกษา ๒๕๒๓ จึงได้ย้ายมาที่อาคารเรียนที่สร้างขึ้น

ระบบการศึกษา
โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านหาดทรายเพเป็นโรงเรียนที่จัดตั้งขึ้นในสังกัด กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ ๒๓ จังหวัดสกลนคร
โรงเรียนเปิดทำการสอนตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ โดยรับเด็กจากหมู่บ้านหาดทรายเพ ดำเนินการสอนเป็น ๓ ภาค ดังนี้
ภาคเรียนที่ ๑ เปิด ๑ พฤษภาคม ๒๕๓๕ ถึง ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๓๕
ภาคเรียนที่ ๒ เปิด ๑ สิงหาคม ๒๕๓๕ ถึง ๒๑ ตุลาคม ๒๕๓๕
ภาคเรียนที่ ๓ เปิด ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๓๕ ถึง ๒๗ มีนาคม ๒๕๓๖
และหยุดระหว่างเดือนพฤศจิกายน เป็นเวลา ๑๕ วัน เนื่องจากเป็นฤดูเก็บเกี่ยว หลักสูตรที่ใช้ในการเรียนการสอน คือ หลักสูตรของสำนักงานการประถมศึกษา ดำเนินการสอนโดย ครู ตชด.เมื่อจบการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ แล้วจะได้รับประกาศนียบัตรของกระทรวงศึกษา นักเรียนที่จบสามารถเข้าศึกษาต่อในชั้นสูงในสถาบันการศึกษาของรัฐแห่งอื่น ๆ ได้

อาคารสถานที่ และสิ่งอำนวยความสะดวก
อาคารเรียน
หน่วยงานที่ให้การสนับสนุน
(ขนาด ๓๘ เมตร x ๘ เมตร ขนาด ๖ ห้อง) ชมรมผู้บังคับบัญชาลูกเสือการรถไฟมักกะสัน
ห้องสมุด กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ ๒๓
ห้องพยาบาล กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ ๒๓
ห้องครัว กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ ๒๓
โรงอาหาร กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ ๒๓
ห้องส้วม กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ ๒๓
สนามเด็กเล่น กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ ๒๓

จำนวนครูและนักเรียน
เมื่อเริ่มแรกกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ได้ส่งครูมาปฏิบัติหน้าที่ ๒ นาย ต่อมาเมื่อนักเรียนเพิ่มขึ้น ทางกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดน ก็ได้เพิ่มจำนวนครู ตชด.อีก จนถึงปัจจุบันมีนักเรียนทั้งสิ้น ๓๘ คน และครู ตชด. ๕ นาย

ตารางแสดงจำนวนครูคุณวุฒิและหน้าที่ความรับผิดชอบของครู ตชด. แต่ละนาย
ชื่อ
คุณวุฒิ
หน้าที่ความรับผิดชอบ
๑. ด.ต.พงษ์ศักดิ์ ดาวเศรษฐ์
ม.ศ.๓
ครูใหญ่
๒. ส.ต.อ.ทองพูน พันสว่าง
ม.ศ.๓
โรงเรียน - ชุมชน
๓. ส.ต.อ.สมพร ไวแสง
ม.๖
วิชาการ-ลูกเสือ, ธุรการ-การเงิน
๔. ส.ต.อ.วิเชียร สายประศาสน์
ปก.ศ.สูง
พยาบาล กิจการนัก
๕. ส.ต.ต.ทองศุกร์ สุริวงแก้ว
ม.ศ.๕
เกษตร ลูกเสือ

ตารางแสดงจำนวนนักเรียน
ชั้น
ชาย
หญิง
รวม(คน)
ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑
ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒
-
ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓
ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔
ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕
ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖
รวม
๒๓
๑๕
๓๘

โครงการตามพระราชดำริที่ดำเนินการในโรงเรียน
เพื่อเป็นการพัฒนาเด็กและเยาวชนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สมเด็จพระเทพรัตราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้ดำเนินโครงการตามพระราชดำริขึ้นในโรงเรียน ตามแผนพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี (๒๕๓๕ - ๒๕๓๙) ได้กำหนดการพัฒนาเป็น ๔ ด้าน แต่ละด้านประกอบโครงการตามพระราชดำริ ดังต่อไปนี้

ด้านอาหารและโภชนาการและสุขภาพอนามัย
โครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน
เริ่มเมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๖ โดยมีวัตถุประสงค์ของโครงการ เพื่อให้เด็กมีอาหารกลางวันที่มีคุณค่ารับประทาน โดยนำผลผลิตทางการเกษตรที่นักเรียน ผลิตขึ้นเองในโรงเรียนมาประกอบอาหาร โดยมีวิทยาลัยเกษตรกรรมนครพนม เกษตรจังหวัดนครพนมให้การสนับสนุนตั้งแต่เริ่มจนถึงปัจจุบัน
ครูผู้รับผิดชอบโครงการ คือ ส.ต.ต.ทางศุกร์ สุริวงศ์แก้ว
ผู้ดำเนินงานโครงการ คือ นักเรียน ผู้ปกครอง

กิจกรรมและผลการดำเนินงาน
กิจกรรม
ผลการดำเนินงาน
หน่วยงานที่ให้การสนับสนุน
๑. การปลูกพืชผัก ในแต่ละปีจะดำเนินการปลูกผักในเนื้อ
ที่ ๒ งาน โดยใช้เมล็ดพันธุ์ผักพระราช
ทาน ได้แก่ คะน้า กวางตุ้ง ผักกาดขาวปลี
มะเขือ ตะไคร้ และกระเพรา
วิทยาลัยเกษตรกรรมนครพนม
เกษตรจังหวัดนครพนม
๒. การปลูกไม้ผล ไม้ผลที่นำมาปลูก ได้แก่ มะม่วง ขนุน
สับปะรด กล้วยน้ำว้า ฝรั่ง มะละกอ
ในพื้นที่ ๒ ไร่ ๑ งาน ๘๐ ตารางวา
วิทยาลัยเกษตรกรรมนครพนม
เกษตรจังหวัดนครพนม
๓. การเลี้ยงสัตว์ ในปีการศึกษานี้ มีไก่ไข่ ๑๐๐ ตัว ไข่ที่ได้
จะนำไปประกอบอาหารให้นักเรียนรับ
ประทาน และนำไปจำหน่ายให้กับสหกรณ์
ร้านค้าเพื่อที่จะนำรายได้ส่วนนี้ไปซื้ออาหาร
สำหรับไก่ต่อไป นอกจากนี้ยังเลี้ยงไก่พื้น
เมืองลูกผสม ๑๕๐ ตัว
วิทยาลัยเกษตรกรรมนครพนม
๔. การเพาะเห็ด ได้เพาะเลี้ยงเห็ดนางฟ้า และเห็ดหูหน
๖๐๐ ก้อน ปัจจุบันเหลือ ๓๐๐ ก้อน
วิทยาลัยเกษตรกรรมนครพนม
๕. การประกอบ
อาหารกลางวัน
มีการประกอบอาหารให้นักเรียน ๕ ครั้ง/
สัปดาห์ โดยมีกลุ่มแม่บ้านหมุนเวียนกัน
มาประกอบอาหารให้นักเรียน ครั้งละ
๒ - ๓ คน
-
๖. อาหารเสริม มีการประกอบน้ำนมถั่วเหลือง จากแป้ง
ถั่วเหลืองพระราชทาน ๓ ครั้ง/สัปดาห์
-
๗. การปลูกพืชไร่ โรงเรียนได้รับพันธุ์สับปะรดจากบริษัท
ชันเทคกรุ๊ฟ จำกัด พร้อมปุ๋ยยากำจักหญ้า
พร้อมทั้งส่งนักวิชาการเข้ามาให้ความรู้
เรื่องการปลูกสับปะรด ผลผลิตที่ทางบริษัท
ยินดีที่จะรับซื้อ พร้อมทาโรงเรียนจะจำหน่าย
ให้กับผู้รับซื้อผลผลิตรายอื่นก็ได้
บริษัท ชันเทคกรุ๊ฟ จำกัด
๘. การเฝ้าระวัง
และติดตามด้าน
โภชนาการ
โรงเรียนทำการประเมินผลภาวะโภชนาการของ
นักเรียนโดยการชั่งน้ำหนักและวัดส่วนสูงภาค
เรียนละ ๑ ครั้ง และใช้น้ำหนักเทียบอายุ เป็นตัว
บ่งชี้ภาวะโภชนาการของเด็กนักเรียน ตุลาคม
๒๕๓๕ มีเด็กนักเรียน ที่มีน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์
มาตรฐาน ๗ คน (๗/๓๘ x ๑๐๐%)
-

รายการสิ่งของพระราชทาน
ในระยะแรกของโครงการทรงพระราชทานพันธุ์ผัก และเงินพระราชทานค่าเครื่องปรุง ให้กับโรงเรียนในอัตราคนละ ๑ บาท/วัน โดยให้ ๑ ปี ไม่เกิน ๑๘๐ วัน ตั้งแต่เริ่มโครงการเรื่อยมาจนถึงปีงบประมาณ ๒๕๓๔ ทางกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ได้ของบประมาณค่าเครื่องปรุงจากรัฐบาล และขอรับเงินพระราชทาน ในส่วนนี้ตั้งแต่ภาคเรียนที่ ๒ ของปีการศึกษา ๒๕๓๓ เป็นต้นมา
ปีการศึกษา ๒๕๓๒
๑. เมล็ดพันธุ์ผักพระราชทาน ๒ ชุด
๒. เงินพระราชทานค่าเครื่องปรุง ๒ งวดเป็นเงิน ๒,๘๘๐ บาท

ปีการศึกษา ๒๕๓๓
๑. เมล็ดพันธุ์ผักพระราชทาน ๒ ชุด
๒. เงินพระราชทานค่าเครื่องปรุง ๑ งวดเป็นเงิน ๑,๔๑๐ บาท
๓. เงินพระราชทานค่าเครื่องครัว เป็นเงิน ๔๘๐ บาท

ปีการศึกษา ๒๕๓๔
๑. เมล็ดพันธุ์ผักพระราชทาน ๒ ชุด
ปีการศึกษา ๒๕๓๕
๑. เมล็ดพันธุ์ผักพระราชทาน ๒ ชุด
๒. แป้งถั่วเหลืองพระราชทาน ๕ กระสอบ
๓. น้ำตาลทราย ๑๐๐ กิโลกรัม
๔. เครื่องชั่งน้ำหนัก ๑ เครื่อง

แหล่งอ้างอิง : สำนักงานโครงการส่วนพระองค์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ
สยามบรมราชกุมารี. (๓๒)
(อีสาน ท๑ ส๖๕๒ ๒๕๓๕)