ประวัติโรงเรียนบ้านร่มเกล้า
โรงเรียนบ้านร่มเกล้า ตั้งอยู่ หมู่ ๘ บ้านร่มเกล้า ตำบลบ่อภาค อำเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก
เมื่อ ปี พ.ศ.๒๔๙๒ มีชาวเขาเผ่าม้ง จากภูเขาจังหวัดน่าน อพยพไปตั้งถิ่นฐานที่บ้านภูเมี่ยง บริเวณเทือกเขาภูสอยดาว เขตติดต่อไทย-ลาว ต่อมาประมาณ พ.ศ.๒๕๑๑ - ๒๕๑๒ ผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ได้เข้าไปปลุกระดมให้เข้าร่วมเป็นผู้ก่อการร้าย ต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลไทย
ต่อมาปี ๒๕๒๔ - ๒๕๒๕ กองบัญชาการผาเมืองเผด็จศึก นำกำลังเข้าโจมตีผู้ก่อการร้ายในเขตที่มั่น ๓ จังหวัด คือ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ และเลย ทำให้ชาวเขาเผ่าม้งเหล่านั้นยอมจำนนเข้ามอบตัว โดยชาวเขาบริเวณภูสอยดาวมอบตัวที่อำเภอนาแห้ว จังหวัดเลย และทางราชการได้จัดที่ทำกินให้บริเวณบ้านร่มเกล้า
จากนั้นเดือนตุลาคม ๒๕๒๕ ศูนย์พัฒนาชาวเขาได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปปฏิบัติงานที่บ้านร่มเกล้า ได้ช่วยเหลือในการสอนเด็กชาวบ้าน โดยจัดตั้งเป็นโรงเรียนชั่วคราวขึ้น ส่วนอาคารเรียนสร้างด้วยเสาไม้ และส่วนประกอบเครื่องบนเป็นลักษณะไม้ไผ่ ไม้ที่จัดหาได้ในท้องถิ่น หลังคามุงด้วยใบค้อ และให้ล่ามชาวเขาซึ่งเป็นลูกจ้างของหน่วยสงเคราะห์ชาวเขามาเป็นครูสอน ๑ คน ชื่อนายหลง แซ่ซ่ง จนกระทั่งปี พ.ศ.๒๕๓๐ ก็มีเหตุการณ์ กองกำลังทหารต่างชาติ (ลาว) เข้าไปรุกรานที่บ้านร่มเกล้า และเหตุการณ์ได้สงบลงในเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๓๑
ในระหว่างการสู้รบกันนั้น การสอนของครูสงเคราะห์ชาวเขาก็ต้องหยุดลง เมื่อเหตุการณ์สงบแล้ว ได้รับความอนุเคราะห์จากตำรวจตระเวนชายแดน เป็นผู้ช่วยสอนแทนครูหลง แซ่ซ่ง
เมื่อวันที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๕๓๓ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนได้มอบโอนโรงเรียนบ้านร่มเกล้าให้เข้าสังกัดอยู่ในความดูแลของ สปช. แต่ทาง สปช.ยังไม่ได้กำหนดตำแหน่งและอัตราเงินเดือนของครูโรงเรียนบ้านร่มเกล้า จึงไม่มีครูมาสอนประจำ สปอ.ชาติตระการ จึงหาอาสาสมัครข้าราชการครูในสังกัดไปช่วยราชการได้ ๒ คน คือ นายอำนาจ รักประกิจ อาจารย์ ๑ โรงเรียนบ้านนาตอน และนางภิญญา วิทยาภรณ์ อาจารย์ ๑ โรงเรียนบ้านขอนสองสลึง
ระบบการศึกษา
โรงเรียนบ้านร่มเกล้า สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ กระทรวงศึกษาธิการ เปิดทำการสอนตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๓๓ ดำเนินการสอนเป็น 2 ภาคเรียน ดังนี้
- ภาคเรียนที่ ๑ เปิด ๑๖ พฤษภาคม ถึง ๑๑ ตุลาคม
- ภาคเรียนที่ ๒ เปิด ๑ พฤศจิกายน ถึง ๓๑ มีนาคม
สภาพแวดล้อม
โรงเรียนตั้งอยู่ในหมู่บ้านร่มเกล้า หมู่ที่ ๘ ตำบลบ่อภาค อำเภอชาติตระการ จำนวน ๑๑๖ ครอบครัว ประชากรทั้งสิ้น ๙๙๑ คน ส่วนใหญ่เป็นชาวเผ่าม้ง นับถือศาสนาพุทธ, ผี ประกอบอาชีพทำไร่
จำนวนครูและนักเรียน
ปัจจุบันมีนักเรียนทั้งสิ้น ๓๔๔ คน เป็นชาย ๑๘๐ คน หญิง ๑๖๔ คน ครู ๑๑ คน นักการภารโรง ๑ คน
ตารางแสดงจำนวนและคุณวุฒิ
๑. นายบรรยงค์ พาพิมพ์ | ผู้บริหารโรงเรียน | |
๒. นางสาวพิมพ์วิภา ดีอินทร์ | ปฏิบัติการสอน | |
๓. นางทัศนีย์ ชาญสูงเนิน | ปฏิบัติการสอน | |
๔. นายวิทยา โชติกคาม | ปฏิบัติการสอน | |
๕. นางนัยนา คำด้วง | ปฏิบัติการสอน | |
๖. นางสาวลำพึง กลั่นหวาน | ปฏิบัติการสอน | |
๗. นางสายหยุด มาประสพ | ปฏิบัติการสอน | |
๘. นางสาวกันยา ศรีโพธิ์ | ปฏิบัติการสอน | |
๙. นายนคเรศ นิลวงศ์ | ปฏิบัติการสอน | |
๑๐. นายนันกรณ์ สินเครือสวน | ปฏิบัติการสอน | |
๑๑. นางวิภา เลี่ยมสมบัติ | ปฏิบัติการสอน |
จำนวนครูและนักเรียน
ปัจจุบันมีนักเรียน ๖๔ คน เป็นชาย ๔๐ คน หญิง ๒๔ คน มีข้าราชการตำรวจตระเวนชายแดนปฏิบัติหน้าที่
ครูผู้สอน จำนวน ๗ นาย และผู้ดูแลเด็กเล็ก จำนวน ๒ คน
ตารางแสดงจำนวนและคุณวุฒิ
๑. ด.ต.สุพจน์ ชูประสิทธิ์ | ครูใหญ่ | |
๒. ด.ต.ประธาน บุตรพิมพ์ | ครูประจำชั้น | |
๓. ส.ต.ท.พิษณุ สนธ์ไพบูลย์ | ครูประจำชั้น | |
๔. ส.ต.ต.นิยม ชัยพรมเขียว | ครูประจำชั้น | |
๕. ส.ต.ต.สมบัติ ทองแล | ครูประจำชั้น | |
๖. ส.ต.ต.ศิริพงษ์&nbap;เงื่องจันทร | ครูประจำชั้น | |
๗. ส.ต.ต.สุภิญโญ สมสาย | ครูประจำชั้น | |
๘. นางหอมหวล พิมปาน | ผู้ดูแลเด็กเล็ก | |
๙. นางวงเดือน จันทร์รักษา | ผู้ดูแลเด็กเล็ก |
ตารางแสดงจำนวนนักเรียน
อนุบาล ๑ | |||
อนุบาล ๒ | |||
ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ | |||
ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ | |||
ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ | |||
ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ | |||
ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ | |||
ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ | |||
อาคารสถานที่และสิ่งอำนวยความสะดวก
๑) อาคารเรียน ๑ | สำนักงานการประถมศึกษาแห่งชาติ |
๓) ห้องน้ำ – ห้องสุขา | สำนักงานการประถมศึกษาแห่งชาติ |
๔) บ้านพักครู | สำนักงานการประถมศึกษาแห่งชาติ |
โครงการที่ดำเนินในโรงเรียน
โครงการส่งเสริมสหกรณ์
ครูผู้รับผิดชอบ คือ นางสาวกันยา ศรีโพธิ์
กิจกรรมที่ดำเนินการ
๑. กิจกรรมการซื้อ - การขาย
๒. สรุปผลกำไร - ขาดทุน
ผลการดำเนินงาน
จัดตั้งขึ้นเมื่อ ปี พ.ศ.๒๕๓๕ ทุนเรือนหุ้นราคา ๕ บาท ปัจจุบันมีผู้ถือหุ้นจำนวน ๙๖ คน เป็นหุ้นจำนวน ๙๖ หุ้น รวมมูลค่า ๓,๙๓๑ บาท ผู้ถือหุ้นเป็นครู ๗ คน นักเรียน ๘๙ คน
ในรอบปีที่ผ่านมาได้กำไร จำนวน ๑,๓๐๑ บาท โดยเก็บไว้เป็นทุนสำรองทั้งหมด
แหล่งอ้างอิง : สำนักงานโครงการส่วนพระองค์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี. (๓๕)(พล. ท๑ ส๖๕๒๗ ๒๕๓๘)