![]() |
![]() |
ประวัติโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนวิจิตรวิทยาคาร
สร้างขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ ๒๙ ตุลาคม ๒๔๙๙ โดยนายพันธ์ธาดา ณ ลำพูนเป็นผู้ดำเนินการก่อสร้างให้ และเปิดทำการเรียนการสอนเมื่อวันที่ ๑ มิถุนายน ๒๕๐๑แต่เปิดไม่ได้นานก็ต้องยุบเลิกเพราะมีนักเรียนน้อย สาเหตุเนื่องจากนักเรียนต้องย้ายตามผู้ปกครองไปทำมาหากินที่อื่น
ต่อมาในพื้นที่บ้านอีปู่ มีประชากรย้ายเข้ามาตั้งถิ่นฐานมากขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นคนงานรับจ้างทำเหมืองแร่ ลูกหลานไม่มีที่เรียนดังนั้นนายพันธ์ธาดา ณ ลำพูน และเพื่อน ๆ เจ้าของเหมืองแร่ในพื้นที่ จึงช่วยกันซ่อมแซมอาคารเรียนหลังเดิมที่ยุบเลิกไปจนพอใช้การได้ พร้อมได้ดำเนินการประสาน กองกำกับการตำรวจตระเวนชาย แดนเขต ๗ (กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ ๑๓ ปัจจุบัน) เพื่อขอจัดตั้งเป็นโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน และเมื่อวันที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๑๘ กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนเขต ๗ ได้จัดส่งครูตำรวจตระเวนชายแดนไปทำการสอน ๒ คน
ในปีพุทธศักราช ๒๕๒๙โรงเรียนได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่ ร่วมกันสร้างอาคารเรียนถาวรไม้ชั้นเดียว ขนาด ๕ x ๗.๕ เมตร โดยได้รับการสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ในการก่อสร้างจากเหมืองแร่จำรัสและเพื่อน ๆ การก่อสร้างดำเนินการเสร็จเรียบร้อยเมื่อวันที่ ๑๙ตุลาคม ๒๕๒๙ (ห้องสมุดปัจจุบัน)
ระบบการศึกษา
โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนวิ จิตรวิทยาคาร เป็นโรงเรียนที่ ตั้งขึ้นในสังกัดของกองกำกับการ ตำรวจตระเวนชายแดนที่ ๑๓ จังหวัดกาญ จนบุรี เปิดทำการสอนตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๑๘ โดย รับเด็กจากหมู่บ้านอีปู่ และอีต่อง ดำเนินการสอนเป็น ๒ ภาคเรียน ดังนี้
- ภาคเรียนที่ ๑ เปิด พฤษภาคม ๒๕๓๗ ถึง ตุลาคม ๒๕๓๗
- ภาคเรียนที่ ๒ เปิด พฤศจิกายน ๒๕๓๗ ถึง มีนาคม ๒๕๓๘
อาคารสถานที่และสิ่งอำนวยความสะดวก
|
จำนวนครูและนักเรียน
เมื่อเริ่มก่อตั้งมีนักเรียน ๓๑ คน เป็นชาย ๑๗ คน หญิง ๑๔ คน และครูตำรวจตระเวนชายแดน ๒ คน
ปัจจุบันมีนักเรียนทั้งสิ้น ๙๙ คน เป็นชาย ๕๘ คน หญิง ๔๑ คน ครูตำรวจตระเวนชายแดน ๖ นาย และ ผู้ดูแลเด็ก ๒ คน
ตารางแสดงจำนวนครูและคุณวุฒิ
|
ตารางแสดงจำนวนนักเรียน
|
โครงการตามพระราชดำริที่โรงเรียนดำเนินการอยู่
โครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน
ผลผลิตทางการเกษตร ระหว่างเดือนพฤษภาคม ถึง เดือนสิงหาคม ๒๕๓๘
|
อัตราการมีน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์ (ปีการศึกษา ๒๕๓๘ ครั้งที่ ๒)
|
|
ปัจจุบันมีการประกอบเลี้ยง ๕ ครั้ง/สัปดาห์
ผู้ประกอบเลี้ยง คือ นักเรียน และผู้ปกครอง
โรงเรียนได้รับการสนับสนุนค่าอาหารกลางวันจาก กระทรวงศึกษาธิการ โดยได้รับในอัตรา ๕ บาท/คน/วัน และได้รับอาหารเสริม ดังนี้
๑) นมสด UHT จากกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข จำนวน ๕๖ ลัง ๓๒ กล่อง
๒) นมผง จากสำนักพระราชวัง
๓. แป้งถั่วเหลือง จากสำนักพระราชวัง
การให้อาหารเสริม มีการดำเนินการ ดังนี้
๑) นมสด UHT ๑ วัน/๑ กล่อง
๒) นมผง อาทิตย์ละ ๑ ครั้ง/๑ แก้ว
๓) แป้งถั่วเหลือง อาทิตย์ละ ๒ ครั้ง/๒แก้ว
รายการสิ่งของพระราชทาน
ปีการศึกษา ๒๕๓๓ - ๒๕๓๔
๑. เมล็ดพันธุ์ผัก ๑ งวด จำนวน ๑ ชุด
๒. ไก่พันธุ์พื้นเมืองลูกผสม ๕๐ ตัว
ปีการศึกษา ๒๕๓๔ - ๒๕๓๕
๑. เมล็ดพันธุ์ผัก ๒ งวด จำนวน ๒ ชุด
ปีการศึกษา ๒๕๓๕ - ๒๕๓๖
๑. แป้งถั่วเหลือง ๓ งวด จำนวน ๘๐ กิโลกรัม
๒. น้ำตาลทราย ๓ งวด จำนวน ๘๐ กิโลกรัม
๓. เมล็ดพันธุ์ผัก ๒ งวด จำนวน ๒ ชุด
ปีการศึกษา ๒๕๓๖ - ๒๕๓๗
๑. แป้งถั่วเหลือง ๒ งวด จำนวน ๖๐ กิโลกรัม
๒. น้ำตาลทราย ๒ งวด จำนวน ๖๐ กิโลกรัม
ปีการศึกษา ๒๕๓๗ - ๒๕๓๘
๑. แป้งถั่วเหลือง ๓ งวด จำนวน ๑๒๐ กิโลกรัม
๒. น้ำตาลทราย ๓ งวด จำนวน ๑๒๐ กิโลกรัม
ปีการศึกษา ๒๕๓๘ - ๒๕๓๙
๑. แป้งถั่วเหลือง ๒ งวด จำนวน ๙๐ กิโลกรัม
๒. น้ำตาลทราย ๒ งวด จำนวน ๙๐ กิโลกรัม
๓. นมผง ๒ งวด จำนวน ๒๕ กิโลกรัม
๔. โปรตีนผง ๑ งวด จำนวน ๖ กิโลกรัม
แหล่งอ้างอิง: สำนักงานโครงการส่วนพระองค์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี (๔๔) (กจ. ท๑ ส๖๕๒ ๒๕๓๘)