ประวัติโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านหนองบอน
ได้เริ่มก่อสร้างเมื่อเดือน กุมภาพันธ์ ๒๕๒๗ ได้รับคำสั่งให้จัดตั้งโรงเรียนจากกอง บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน เมื่อมีนาคม ๒๕๓๐ เนื่องจากแต่เดิมเด็กนัก เรียนบ้านหนองบอนจะต้องเดินทางไปโรงเรียนบ้านชับตารีและโรงเรียน ส.ไทยเสรี อุตสาหกรรม ๒ ซึ่งการคมนาคมไม่สะดวกลำบากมากต่อการเดินทางไปโรงเรียน ในฤดูฝนสภาพดินฟ้าอากาศไม่เอื้ออำนวยต่อการศึกษาของเด็กนักเรียนและระ ยะทางคมนาคมห่างไกลมากด้วยเหตุนี้ราษฎรบ้านหนองบอนจึงได้ร่วมประชุม ศึกษาหารือกันพร้อมได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการศึกษาของบุตรหลานใน หมู่บ้าน และได้ร่วมกันบริจาคเงินเพื่อจะซื้อที่ดินจำนวน ๒๓ ไร่ ๒ งาน ต่อมา มีนายแสง จันทรสิงห์ ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินร่วมบริจาคอีก ๑ ไร่ ๒ งาน รวมเป็น ๒๕ ไร่จึงได้จัดตั้งโรงเรียนขึ้นแห่งนี้เป็นอาคาร เรียนชั่วคราว จำนวน ๖ ห้องเรียน ห้องสมุด ๑ ห้อง เมื่อวันที่ ๑๖ เม.ย.๒๕๓๐ และแล้วเสร็จเมื่อวันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๓๐
เมื่อวันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๓๐ พันตำรวจโท สมพงษ์ พันธุ์ผลรองผู้กำ กับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ ๑๑ ได้มาเป็นประธานในพิธีเปิดป้ายอาคารเรียน และได้เริ่มทำการสอน ในวันที่ ๑ พ.ค. ๒๕๓๐ มีนักเรียนทั้งสิ้น ๙๕ คนมีครูโรงเรียน ตำรวจตระเวนชายแดน ๕ นายโดยมีสิบตำรวจโท บรรจง จันทร์จรเป็นครูใหญ่คน แรกจ่าสิบตำรวจเดชา พรหมรอดเป็นครูใหญ่ที่ ๒ และจ่าสิบตำรวจ เกื้อ เรียงทับ เป็นครูใหญ่คนที่ ๓ และ จ่าสิบ ตำรวจศิริรัตน์ พงษ์สาโรจน์ เป็นครูใหญ่คนปัจจุบัน เมื่อวันที่ ๕ มีนาคม ๒๕๓๓ โรงเรียนสตรีวิทยา ๒ ได้มอบเงิน ๓๐๐,๐๐๐ บาท (สามแสนบาทถ้วน) เพื่อสร้างอาคารเรียน ถาวร แบบ ป. ๑๐๒ ขนาด ๓ ห้องเรียน ให้กับโรงเรียนตำรวจ ตระเวนชายแดนบ้านหนองบอน โดยมีพันตำรวจโทภิศักดิ์ เพ็งบาน รองผู้กำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ ๑๑ เป็นผู้รับมอบต่อมาในปี การศึกษา ๒๕๓๕ มีภาคเอกชนหน่วยต่าง ๆ ได้บริจาคเงินสร้างสิ่งก่อสร้างและ จัดซื้ออุปกรณ์ต่าง ๆ ให้กับโรงเรียน
โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านหนองบอน (สตรีวิทยาอุปถัมภ์ ๒)
ตั้งอยู่ หมู่ที่ ๗ ตำบลทุ่งขนาน อำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรีโรงเรียนตั้งอยู่ ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของหมู่บ้าน จำนวนประชากรในหมู่บ้าน ๑๒๐ หลังคาเรือน มีประชากรทั้งสิ้น ๖๕๒ คน เป็นชาย ๓๒๓ คน เป็นหญิง ๓๒๙ คน นายประเวศน์ แก้ว สาริการ เป็นผู้ใหญ่บ้านราษฎรในหมู่บ้านนับถือศาสนาพุทธ ทุกครัวเรือนการประกอบอาชีพทำพืชไร่ และรับจ้าง โรงเรียนอยู่ห่างจากกองกำกับ การตำรวจตระเวนชายแดนที่ ๑๑ เป็น ระยะทาง ๘๕ กิโลเมตร (ถนนลาดยาง ๙๐ กิโลเมตร ถนนลูก รัง ๕ กิโลเมตร)เดินทางโดยรถยนตร์ ใช้เวลาประมาณ ๑ ชั่วโมง ๓๐ นาทีลักษณะแหล่งน้ำโรงเรียนมีสระน้ำ ๒ แห่งบ่อบาดาล ๑ แห่ง มีน้ำใช้ตลอด ปี และโรงเรียนมีไฟฟ้าใช้
นโยบายของโรงเรียน
๑. ปรับปรุงสภาพการเรียนการสอน ให้สอดคล้อง กับหลักสูตรการประถมศึกษาแห่ง ชาติ ปี ๒๕๒๑
๒. ปรับปรุงอาคารสถานที่ และบริเวณโรงเรียนให้เหมาะสม
เป็นระเบียบ เรียบร้อยดู สวยงาม
๓. ปฏิบัติดูแลนักเรียนให้ทั่วถึง เพื่อให้สามารถเล่าเรียน
ได้อย่างมีความสุข ทั้งทางกายและจิตใจ
๔. ให้ทุกคนมีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็น และร่วมดำเนิน
การพัฒนาโรงเรียน ได้แก่ นักเรียน ครู ผู้ปกครอง และชุมชน
๕. จัดหาที่พักอาศัยให้ครูโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนได้
อยู่เป็นสัดส่วน เพื่อสร้าง ขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ให้มีประสิทธิภาพ
๖. สนับสนุนนโยบายของหน่วยเหนือ และหน่วยงานอื่น ๆ ในการพัฒนาท้องถิ่น และ ความมั่นคงของชาติ
คำขวัญโรงเรียน "เรียนดี พูดดี ทำดี มีวินัย"
ลักษณะภูมิประเทศ
ของโรงเรียนส่วนใหญ่เป็นที่ราบเหมาะสำหรับการเพาะปลูกพืช ทุกชนิดเช่น ไม้ผล ไม้ยืนต้น พืชไร ่พืชผัก และเลี้ยงสัตว์
แหล่งน้ำ
โรงเรียนมีแหล่งน้ำอยู่ ๒ แห่งซึ่งเป็นสระน้ำขนาดใหญ่มีน้ำไว้ใช้ในการเกษตร และในโรงเรียนอย่างเพียงพอขนาดบ่อ๘๐x๙๐x๔ม. ขนาด ๓๐x๔๐x๔ ม.
โครงการหน่วยแพทย์พระราชทาน
รายงานการปฏิบัติงานโครงการหน่วยแพทย์พระราชทาน ครั้งที่ ๑๐๑
วันที่ ๑๐ เมษายน ๒๕๓๘
สถานที่ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านหนองบอน ตำบลทุ่งขนานอำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี
ระยะเวลาที่ดำเนินเปิดบริการ เริ่มตั้งแต่เวลา ๐๙.๐๐น. จนถึงเวลา ๑๔.๐๐ น.
จำนวนเจ้าหน้าที่ทั้งหมดที่ออกหน่วยแพทย์พระราชทาน
หน่วยแพทย์พระราชทานได้รับการสนับสนุนทางด้านบุคลากรจากหน่วยงานส่วนกลางและส่วนภูมิภาค จำนวนทั้งสิ้น ๔๐ คน (รายละเอียดตามผนวก ก) และสามารถจำแนกได้ดังนี้
แพทย์ทหาร | ||||||
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด | ||||||
สำนักงานโครงการส่วนพระองค์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี |
||||||
สรุปผลการดำเนินงาน
การบริการตรวจสุขภาพนักเรียน
โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านตะโกล่าง มีนักเรียนเข้ารับบริการตรวจสุขภาพเป็นจำนวนทั้งสิ้น ๑๒๒ คน นักเรียนชาย ๕๗ คน นักเรียนหญิง ๖๕ คน สุขภาพปกติ๑๐๐ คน เจ็บป่วย ๒๒ คน แบ่งแยกระบบโรคได้ดังนี้ ระบบทางเดินหายใจ๑๔ คน ผิวหนัง ๔ คน รับเป็นผู้ป่วยในพระราชานุเคราะห์ ๓ คน ได้แก่โรคตา ๑ คน โรคเลือด ๑ คน ใบ้ หูหนวก ๑ คน และเข้ารับบริการทันตกรรม ๑ คน
การให้บริการตรวจรักษาราษฎร
ในการออกหน่วยแพทย์พระราชทานครั้งนี้ มีราษฎรที่มาเฝ้ารอรับเสด็จฯ เข้ารับบริการตรวจรักษา จำนวนทั้งสิ้น ๒๕๑ คน ในจำนวนนี้เป็นชาย๗๗ คน (ร้อยละ ๓๐.๖๘) และหญิง ๑๗๔ คน (ร้อยละ ๖๙.๓๒)
จำนวนผู้เข้ารับบริการตรวจรักษาจำแนกตามอายุ
ผู้เข้ารับการตรวจรักษาส่วนใหญ่มีอายุตั้งแต่ ๑๕–๔๙ ปี(ร้อยละ ๔๕.๘๒) รองลงมาคือกลุ่มผู้มีอายุมากกว่า ๕๐ ปี(ร้อยละ ๒๘.๒๘)
จำนวนผู้เข้ารับบริการตรวจรักษาจำแนกตามสถานภาพของผู้ป่วย
ผู้ป่วยทั่วไป | ||
ผู้ป่วยในพระราชานุเคราะห์ | ||
หมายเหตุ ผนวก ข รายชื่อผู้ป่วยในพระราชานุเคราะห์
จำนวนผู้ป่วยเข้ารับบริการตรวจรักษาจำแนกตามโรค
โรคที่ตรวจพบมากที่สุด ได้แก่โรคระบบทางเดินหายใจ รองลงมาคือ โรคระบบเหงือกและฟัน ดังแสดงในตารางต่อไปนี้
โรคระบบทางเดินหายใจ | ||
โรคระบบทางเดินอาหาร | ||
โรคระบบ หู ตา คอ จมูก | ||
โรคระบบประสาท | ||
โรคระบบกล้ามเนื้อและกระดูก | ||
โรคระบบทางเดินปัสสาวะ& อวัยวะสืบพันธุ์ | ||
โรคผิวหนัง | ||
โรคเหงือกและฟัน | ||
โรคอื่น ๆ | ||
หมายเหตุ โรคอื่น ๆ เช่น ตรวจสุขภาพ ขาพิการ ไทรอยด์ โรคหัวใจ ใบ้
ค่าใช้จ่าย
ในส่วนของยาพระราชทานใช้ในการออกหน่วยแพทย์พระราชทาน ณ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านหนองบอน รวมเป็นเงินประมาณ๕,๖๖๓ บาท
กองทุนพระราชทาน
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามราชกุมารี ได้พระราชทานเงินให้แก่โรงพยาบาลสอยดาว และโรงพยาบาลโป่งน้ำร้อน จำนวนโรงพยาบาลละ ๕,๐๐๐ บาทจัดตั้ง "กองทุนพระราชทานเพื่อสงเคราะห์คนไข้ยากจนในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี"
แหล่งอ้างอิง : สำนักงานเกษตรจังหวัดจันทบุรี.(๙)(จบ.ท๓ ส๖๕๒๕ ๒๕๓๘)
สำนักงานโครงการส่วนพระองค์.(๕๗)[ท๒๖ ส๖๕๒ ๒๕๓๘(๑๐๑)]