ประวัติโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านบ่อชะอม
คณะกรรมการหมู่บ้านได้เห็นความยากลำบากที่เด็กนักเรียนต้องเดินทางที่โรงเรียน บ้านเนินจำปาตำบลพวาซึ่งอยู่ห่างจากบ้านบ่อชะอมประมาณ ๖ ก.ม.การเดินทาง ไปโรงเรียนลำบากโดยในฤดูฝนคณะกรรมการหมู่บ้านจึงได้ร่วมใจกันก่อสร้างอาคาร เรียนชั่วคราวในปีพ.ศ๒๕๒๘โดยมีนายบัวจันทร์ สำโรงและนายคาด ขวดแก้วร่วมกัน บริจาคที่ดินรวม ๑๙ ไร่ และ ได้ทำการเปิดสอนในวันที่ ๒ พฤษภาคม ๒๕๒๘ โดยเริ่ม เปิดเรียนในชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ และ ชั้นประถมปีที่ ๒ โดยมีนางดวงจันทร์จริต และนางราตรี กลิ่นจันทร์ราษฎรในพื้นที่เป็นผู้สอนในปี พ.ศ.๒๕๒๙ ทางจังหวัดจัน ทบุรีได้จัดส่งอาสาสมัครประจำจังหวัดมาช่วยทำการสอน ๑ คนคืออาสาสมัครวินับ ทองล้วนใน ปี ๒๕๓๑ คณะกรรมการหมู่บ้านได้เดินทางไปร้องขอเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตระเวนชายแดนจากกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ ๑๑ มาทำการสอน เนื่องจากครูที่ทำการสอนอยู่เดิมลาออกไปประกอบอาชีพส่วนตัวครั้งแรกทางกอง กำกับการ ตำรวจตระเวนชายแดนที่ ๑๑ ได้จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนมา ช่วยสอน ๕ นายขึ้นเป็นสาขาโรงเรียนบ้านเนินจำปาปี พ.ศ. ๒๕๓๔จึงได้รับอนุมัต ิจัดตั้งเป็นโรงเรียนในเดือนมกราคม ขึ้นสังกัดกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ในความดูแลรับผิดชอบของ กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ ๑๑ อำเภอมะ ขาม จังหวัดจันทบุรี ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๕๓๕ทหารอเมริกันได้เดินทางเข้ามาฝึกคอ บ้าโกลด์ในพื้นที่ตำบลพวา กิ่งอำเภอหางแมว ในวันที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๕ คณะ ทหารอเมริกัน ได้ร่วมกันบริจาคเงินสร้างอาคาเรียนถาวรให้จำนวน ๑ หลังมีขนาด ๔ ห้อง เป็น ๗๐,๐๐๐ บาท (เจ็ดหมื่นบาทถ้วน)
ลักษณะภูมิประเทศ
ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติพื้นที่ส่วนใหญ่โดยรอบเป็นป่าไม้เบญจพรรณ ประกอบด้วย ไม้มะค่า ไม้พยุง ไม้ตะแบบ ไม้กระบก นายสุชิน เจริญสุข เป็นผู้ใหญ่ บ้านที่ทำการผู้ใหญ่บ้านตั้งอยู่ที่บ้านเนินจำปา ห่างจากหมู่บ้านบ่อชะอม ประมาณ ๖ ก.ม.ปัจจุบันได้มีราษฏรจากจังหวัดระยอง จังหวัดสุพรรณบุรีและจังหวัดอื่น ๆ ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนืออพยพย้ายถิ่นเข้ามาจับจองที่ทำกิน
สภาพทางภูมิศาสตร์
ที่ตั้งบ้านบ่อชะอม ตั้งอยู่ห่างจากกิ่งอำเภอ แก่งหางแมว ไปทางทิศตะวันตก เป็นระยะทาง ๓๐ กิโลเมตร และห่างจากกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ ๑๑ อำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี ๙๕ กิโลเมตร และห่างจากจังหวัดจันทบุรี ๘๑ ก.ม. ถนนเป็นทางลาดยาง จากกิ่งอำเภอนายายอาม
อาณาเขตติดต่อ
- ทิศเหนือ ติดต่อ บ้านบ่อไฟไหม้ ตำบลพวา กิ่งอำเภอแก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรี ระยะทาง ๔ กิโลเมตร เส้นทางคมนาคม เป็นถนนลูกรังใช้ได้ในฤดูแล้ง
- ทิศใต้ ติดต่อ บ้านหนองมะค่า หมู่ ๒ ตำบลพวา กิ่งอำเภอหางแมว จังหวัดจันทบุรี ระยะทาง ๑๔ กิโลเมตร เป็นทางลาดยาง ๖ กิโลเมตร ถนนลูก รัง ๘ กิโลเมตร
- ทิศตะวันออก ติดต่อ บ้านเขาฆ้อง หมู่ ๕ ตำบลพวา กิ่งอำเภอแก่ง หางแมว จังหวัดจันทบุรี ระยะทาง ๒๘ กิโลเมตร
- ทิศตะวันตก ติดต่อ อำเภอแกลง จังหวัดระยอง
สภาพพื้นที่ภูมิประเทศ
บ้านบ่อชะอมตั้งอยู่ในพื้นที่เขตป่าสงวนแห่งชาติพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบและเนินเขา ดินเหนียวปนลูกรัง ซึ่งเหมาะแก่การปลูกพืชสวนพืชไร่พืชที่มีการปลูกได้แก่ มันสัมปะหลัง ข้าวโพด
ทรัพยากรธรรมชาติ
ป่าไม้ แต่เดิมหมู่บ้านชะอม และหมู่บ้านใกล้เคียงเป็นพื้นที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วย ป่าไม้นานาชนิด เช่น ไม้มะค่า ไม้ตะแบก ไม้กระบก และป่าไม้เบญจพรรณต่าง ๆ ต่อมาได้ถูกบุกรุกจากผู้มีอิทธิพลเข้ามาทำลายแผ้วถางป่าเพื่อใช้พื้นที่ในการทำ การเกษตร เช่น การปลูกไม้ผลการปลูกพืชไร่
ดิน ลักษณะดินเป็นดินที่มีสภาพอุดมสมบูรณ์ไปด้วยแร่ธาตุ เหมาะแก่การปลูก มันสำปะหลัง
แหล่งน้ำ เป็นหมู่บ้านที่ขาดแคลนแหล่ง น้ำที่มีอยู่ก็ห่างไกลเช่น คองหินเพลิงไหลไป บรรจบกันที่คลองลำโตนด
การคมนาคม ในหมู่บ้าน มีการคมนาคมขนส่งโดยรถยนต์โดยสารประจำทางวิ่ง ระหว่างหมู่บ้าน และกิ่งอำเภอนายายอาม วันละ ๒ เที่ยวระยะทาง ๓๖ กิโลเมตร
สภาพการปกครองและสังคม
๑. ประชากร มีจำนวน ๑,๑๑๙ คน
๒. การปกครอง เป็นหมู่บ้านอาสา พัฒนาป้องกันตนเอง (อพป.) เนื่องจากสภาพในอดีตเป็นหมู่บ้านห่างไกลคมนาคมท้องถิ่นทุรกันดาร
๓. การศาสนา ส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธภาษาที่ใช้พูดใช้ภาษาท้องถิ่น
มีวัดจำนวน ๒ แห่ง
๔. เป็นหน่วยงานหนื่งที่ให้บริการทางด้านสาธารณสุขเบื้องต้นแก่ประชาชน
ในพื้นที่โดยมีครูโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ทำหน้าที่พยาบาลประจำโรงเรียน ๒ นาย เป็นผู้ให้บริการ
สภาพทางเศรษฐกิจ
ประชาชนส่วนใหญ่มีฐานะยากจน อพยพจากจังหวัดใกล้เคียงและทางภาคตะวัน ออกเฉียงเหนือประกอบอาชีพการปลูกพืชไร่เช่น มันสำปะหลัง ข้าวโพดสวนยาง พารา สวนผลไม้ อาชีพรอง รับจ้าง ค้าขาย ประชาชนมีรายได้โดยเฉลี่ยครอบครัว ละประมาณ ๑๒,๐๐๐ -๒๕,๐๐๐ บาทต่อปี
รายงานการปฏิบัติงานโครงการหน่วยแพทย์พระราชทาน ครั้งที่ ๙๙
วันที่ ๑๐ เมษายน ๒๕๓๘
สถานที่ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านบ่อชะอม ตำบลพวา อำเภอแก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรี
ระยะเวลาที่เปิดบริการ เริ่มตั้งแต่เวลา ๐๗.๐๐ น. จนถึงเวลา ๑๑.๐๐ น.
จำนวนเจ้าหน้าที่ทั้งหมดที่ออกหน่วยแพทย์พระราชทาน
หน่วยแพทย์พระราชทานได้รับการสนับสนุนทางด้านบุคลากรจากหน่วยงานส่วนกลางและส่วนภูมิภาคทั้งสิ้นจำนวน ๒๕ คน (รายละเอียดตามผนวก ก) และสามารถจำแนกได้ดังนี้
สำนักงานแพทย์ใหญ่กรมตำรวจ | ||||||
กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน | ||||||
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด | ||||||
สำนักงานโครงการส่วนพระองค์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี |
||||||
สรุปผลการดำเนินงาน
การบริการตรวจสุขภาพนักเรียน
โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านบ่อชะอม มีนักเรียนเข้ารับบริการตรวจสุขภาพเป็นจำนวนทั้งสิ้น ๑๐๘ คน นักเรียนชาย ๔๓ คน นักเรียนหญิง ๖๕ คน สุขภาพปกติ ๘๔ คน เจ็บป่วย ๒๔ คน ได้แก่ โรคผิวหนัง ๔ คน และเข้ารับบริการทันตกรรม ๒๐ คน
การให้บริการตรวจรักษาราษฎร
ในการออกหน่วยแพทย์พระราชทานครั้งนี้ มีราษฏรที่มาเฝ้ารอรับเสด็จ ฯ เข้าทำการตรวจรักษา จำนวนทั้งสิ้น ๒๑๑ คน ในจำนวนนี้เป็นชาย ๗๗ คน (ร้อยละ ๓๖.๔๙) และหญิง ๑๓๔ คน (ร้อยละ ๖๓.๕๑)
จำนวนผู้เข้ารับบริการตรวจรักษาจำแนกตามอายุ
ผู้เข้ารับการตรวจรักษาส่วนใหญ่มีอายุตั้งแต่ ๑๕-๔๙ ปี (ร้อยละ ๔๙.๔๖) รองลงมาคือกลุ่มผู้มีอายุมากกว่า ๕๐ ปี (ร้อยละ ๒๘.๔๔)
จำนวนผู้เข้ารับบริการตรวจรักษาจำแนกตามสถานภาพของผู้ป่วย
ผู้ป่วยทั่วไป | ||
ผู้ป่วยในพระราชานุเคราะห์ | ||
หมายเหตุ ผนวก ข รายชื่อผู้ป่วยในพระราชานุเคราะห์
จำนวนผู้ป่วยเข้ารับบริการตรวจรักษาจำแนกตามโรค
โรคที่ตรวจพบมากที่สุด ได้แก่โรคระบบทางเดินหายใจ รองลงมาคือ โรคระบบกล้ามเนื้อและกระดูก ดังแสดงในตารางต่อไปนี้
โรคระบบทางเดินหายใจ | ||
โรคระบบทางเดินอาหาร | ||
โรคระบบ หู ตา คอ จมูก | ||
โรคระบบประสาท | ||
โรคระบบกล้ามเนื้อและกระดูก | ||
โรคระบบทางเดินปัสสาวะ&อวัยวะสืบพันธุ์ | ||
โรคผิวหนัง | ||
โรคเหงือกและฟัน | ||
โรคอื่น ๆ | ||
รวม |
หมายเหตุ โรคอื่น ๆ ได้แก่ โรคหัวใจแต่กำเนิด
ค่าใช้จ่าย
ในส่วนของยาพระราชทานใช้ในการออกหน่วยแพทย์พระราชทาน ณ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านบ่อชะอม รวมเป็นเงินประมาณ ๔,๙๘๘ บาท และได้รับการสนับสนุนยาบางส่วนจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดจันทบุรี
กองทุนพระราชทาน
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ได้พระราชทานเงินให้แก่ โรงพยาบาลท่าใหม่ จำนวน ๕,๐๐๐ บาท จัดตั้ง "กองทุนพระราชทานเพื่อสงเคราะห์คนไข้ยากจนในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี" และ โรงพยาบาลแก่งหางแมว จำนวน ๓,๐๐๐ บาท สมทบกองทุน ฯ ดังกล่าว
แหล่งอ้างอิง: กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ ๑๑(ค่ายเจ้าพระยาบดินทรเดชา).(๘)(จบ.ท๑ น๙๖๑ ๒๕๓๘) สำนักงานโครงการส่วนพระองค์ (๕๘)[ท๒๖ ส๖๕๒ ๒๕๓๘(๙๙)]