ประวัติโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนยอดโพธิ์ทอง ๑
ตั้งอยู่หมู่ที่ ๒ บ้านภูต่าง ตำบลบ่อเบี้ย อำเภอบ้านโคก จังหวัดอุตรดิตถ์
บ้านภูต่าง เป็นหมู่บ้านโครงการ "หมู่บ้านป้องกันตนเองชายแดนไทย - ลาว และหมู่บ้านอาสาพัฒนาป้องกันตนเอง" อยู่ห่างจากบ้านห้วยไผ่ ๓ กิโลเมตร ในรัศมี ๘ กิโลเมตร ไม่มีโรงเรียนของการประถมศึกษาตั้งอยู่ มีเพียงแต่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบุญธรรม - บุญพริ้ง เท่านั้น ซึ่งตั้งอยู่ที่บ้านห้วยไผ่ ตำบลบ่อเบี้ย อำเภอบ้านโคก จังหวัดอุตรดิตถ์ อยู่ห่างออกไป ๓ กิโลเมตร ฉะนั้นเด็กนักเรียนบ้านภูต่างจึงต้องเดินทางไปเรียนที่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบุญธรรม - บุญพริ้ง
พื้นที่ทั่วไปเป็นภูเขาสูงล้อมรอบและมีสิ่งกีดขวาง เช่น แม่น้ำ ลำห้วย เป็นปัญหาอุปสรรคแก่เด็กนักเรียน ในการเดินทางไปโรงเรียน บางครั้งเด็กนักเรียนได้รับอันตรายต่างๆ ผู้ใหญ่บ้านในขณะนั้นจึงได้เขียนคำร้องไปยังสำนักงานการประถมศึกษา เพื่อขอให้จัดตั้งโรงเรียนขึ้นที่บ้านภูต่าง แต่ก็ไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากอยู่ในเขตความรับผิดชอบของโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบุญธรรม - บุญพริ้ง
ปี พ.ศ.๒๕๒๙ กก.ตชด.เขต ๖ (เดิม) ได้อนุมัติให้เปิดเป็นโรงเรียนสาขาขึ้น และตั้งชื่อว่า "โรงเรียน ตชด.ปจว.บ้านภูต่าง"
สภาพอาคารเรียน เป็นอาคารเรียนแบบกึ่งถาวร จำนวน ๑ หลัง ขนาด ๕ x ๑๐ เมตร หลังคามุงด้วยสังกะสี ไม่มีฝาผนัง โต๊ะม้านั่งทำด้วยปีกไม้ การดำเนินการสอนในระยะแรกๆ เปิดทำการสอน ๒ ห้องเรียน คือ ชั้น ป.๑ - ป.๒ ขณะนั้นมีเด็กนักเรียน จำนวน ๓๕ คน เป็นชาย ๑๘ คน หญิง ๑๗ คน สำหรับชั้น ป.๓ - ป.๔ เห็นว่าสามารถช่วยตนเองได้แล้ว ก็ให้ไปเรียนต่อที่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบุญธรรม - บุญพริ้ง
ปี พ.ศ.๒๕๓๑ ได้รับความเห็นชอบจากกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ให้จัดตั้งเป็นโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน โดยให้ชื่อว่า "โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนภูต่าง" สังกัดกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ ๓๑ อยู่ในความรับผิดชอบของ กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค ๓ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน
ปี พ.ศ.๒๕๓๓ ได้รับการสนับสนุนงบประมาณตามแผนพัฒนาชนบทระดับจังหวัด (กชช.) ประจำปี ๒๕๓๓ เพื่อปรับปรุงซ่อมแซมอาคารเรียน จำนวน ๒๕,๐๐๐ บาท (สองหมื่นห้าพันบาทถ้วน) ต่อมาเมื่อวันที่ ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๓๔ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารีได้เสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมและติดตามผลการดำเนินงานโครงการตามพระราชดำริ
ปี พ.ศ.๒๕๓๕ นายสุชัย - นางกุหลาบ ยอดโพธิ์ทอง ได้บริจาคเงินจำนวน ๒๗๐,๘๔๗ บาท เพื่อก่อสร้างอาคารเรียนหลังใหม่ขนาดกว้าง ๔ เมตร ยาว ๘ เมตร ขนาด ๗ ห้องเรียน โดยมอบให้ ผศ.วสันต์ พรหมบุญ หัวหน้าชมรมรวมน้ำใจสู่ชนบท วิทยาลัยจันทรเกษมร่วมกับคณะครูและประชาชนบ้านภูต่าง ร่วมกันก่อสร้าง
เมื่อวันที่ ๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๖ บช.ตชด.อนุมัติให้เปลี่ยนชื่อโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านภูต่าง เป็น "โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนยอดโพธิ์ทอง ๑" เพื่อเป็นเกียรติประวัติแก่นายสุชัย - นางกุหลาบ ยอดโพธิ์ทอง ผู้ซึ่งบริจาคเงินสร้างอาคารเรียน
โรงเรียนมีพื้นที่ทั้งหมด ๑๒ ไร่
ข้อมูลหมู่บ้านภูต่าง
ตั้งอยู่หมู่ ๑๐ ตำบลบ่อเบี้ย อำเภอบ้านโคก จังหวัดอุตรดิตถ์
บ้านภูต่าง เป็นหมู่บ้านที่ก่อตั้งมานานประมาณ ๖๐ ปีแล้ว มีราษฎรจากบ้านห้วยไผ่ และบ้านบ่อเบี้ยอพยพเข้ามาตั้งบ้านเรือนอาศัยอยู่เรียกว่าบ้านภูต่าง ซึ่งเป็นชื่อภูเขาลูกหนึ่งที่อยู่ทางทิศใต้ของหมู่บ้าน ก่อนปี พ.ศ.๒๕๓๓ หมู่บ้านภูต่างขึ้นกับหมู่ที่ ๒ บ้านห้วยไผ่ ตำบลบ่อเบี้ย อำเภอบ้านโคก จังหวัดอุตรดิตถ์ ต่อมาทางอำเภอบ้านโคกได้รับอนุมัติจากจังหวัดให้แยกบ้านภูต่างออกจากบ้านห้วยไผ่
หมู่บ้านภูต่างห่างจากอำเภอ จึงได้จัดตั้งให้เป็นหมู่บ้านป้องกันตนเองชายแดนไทย - ลาว และหมู่บ้านอาสาพัฒนาป้องกันตนเอง
อาณาเขตติดต่อ
- ทิศเหนือ ติดต่อกับ บ้านห้วยไผ่ ตำบลบ่อเบี้ย อำเภอบ้านโคก จังหวัดอุตรดิตถ์
- ทิศใต้ ติดต่อกับ หมู่บ้านปางคอม ตำบลบ่อเบี้ย อำเภอบ้านโคก จังหวัดอุตรดิตถ์
- ทิศตะวันออก ติดต่อกับ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
- ทิศตะวันตก ติดต่อกับ หมู่บ้านเด่นชาติ ตำบลบ่อเบี้ย อำเภอบ้านโคก จังหวัดอุตรดิตถ์
จำนวนประชากร
- ปัจจุบันหมู่บ้านภูต่าง มีราษฎรอาศัย ๕๕ ครอบครัว ประชากร ๒๓๐ คน เป็นชาย ๑๑๖ คน หญิง ๑๑๔ คน ใช้ภาษาไทยท้องถิ่น มีสัญชาติไทย นับถือศาสนาพุทธ
สภาพทางเศรษฐกิจ
- ราษฎรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพด้านการเกษตร (ทำไร่ข้าวโพด, ถั่ว และปลูกข้าว) ฐานะความเป็นอยู่ยากจน
การคมนาคม
- หมู่บ้านภูต่าง อยู่ห่างจากจังหวัดพิษณุโลกประมาณ ๒๗๘ กิโลเมตร เดินทางโดยรถยนต์ใช้เวลาประมาณ ๔ ชั่วโมง และห่างจากจังหวัดอุตรดิตถ์ประมาณ ๑๘๐ กิโลเมตร เดินทางโดยรถยนต์ใช้เวลาประมาณ ๓ ชั่วโมง
ผู้นำหมู่บ้าน
๑. นายสมภาร ดีป้อง กำนันตำบลบ่อเบี้ย อำเภอบ้านโคก จังหวัดอุตรดิตถ์
๒. นายสิน ยะมา ผู้ใหญ่บ้านภูต่าง หมู่ที่ ๑๐ ตำบลบ่อเบี้ย อำเภอบ้านโคก จังหวัดอุตรดิตถ์
ระบบการศึกษา
โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนยอดโพธิ์ทอง ๑ สังกัดกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พื้นที่รับผิดชอบของกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ ๓๑ จังหวัดพิษณุโลก
โรงเรียนเปิดทำการสอนตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๓๑ ดำเนินการสอนเป็น ๒ ภาคเรียน ดังนี้
- ภาคเรียนที่ ๑ ตั้งแต่วันที่ ๑๒ พฤษภาคม ถึง ๑๐ ตุลาคม ของทุกปี
- ภาคเรียนที่ ๒ ตั้งแต่วันที่ ๑ พฤศจิกายน ถึง ๓๑ มีนาคม ของทุกปี
อาคารสถานที่และสิ่งอำนวยความสะดวก
ทางโรงเรียนมีอาคารและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ดังนี้
อาคารสถานที่ | |
๑ |
คุณ |
๒ |
ได้ และ จำนวน ๓๕ |
๓ |
ได้ |
๔) อาคารสหกรณ์ร้านค้า ขนาด ๕x๙ เมตร จำนวน ๑ หลัง | ได้ |
๕) บ้านพักครู ขนาด ๕x๑๐ เมตร จำนวน ๑ หลัง | ได้ |
๖) ห้องน้ำ-ห้องส้วม ขนาด ๒x๓ เมตร จำนวน ๑ หลัง | ได้ |
๗ |
ได้ |
จำนวนครูและนักเรียน
ปัจจุบันมีนักเรียน ๕๒ คน เป็นชาย ๒๕ คน หญิง ๒๗ คน มีครูตำรวจตระเวนชายแดน ๗ นาย ผู้ดูแลเด็ก ๒ คน
ตารางแสดงจำนวนและคุณวุฒิ
๑. ส.ต.อ.วานิช ปั้นหยวก | ||
๒. ส.ต.อ.วสันต์ ครุฑเงิน | ||
๓. ส.ต.ต.นภดล แปลงเรือน | ||
๔. ส.ต.ต.ประชัน เชื้อสะอาด | ||
๕. ส.ต.ต.อนันต์ พรหมรักษา | ||
๖. ส.ต.ต.วีระพันธ์ วงศ์น้ำโจ้ | ||
๗. ส.ต.ต.ณรงค์ สิทธิ | ||
๘. นางจีระนันท์ แปลงเรือน | ||
๙. นางสาวมีนตรา ชนะมา |
ตารางแสดงจำนวนเด็กนักเรียน ปีการศึกษา ๒๕๔๑
ชั้นเด็กเล็กก่อนวัยเรียน | |||
ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ | |||
ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ | |||
ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ | |||
ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ | |||
ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ | |||
ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ | |||
รวม |
โครงการตามพระราชดำริที่โรงเรียนดำเนินการอยู่
เพื่อเป็นการพัฒนาเด็กและเยาวชนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารีทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ดำเนินงานโครงการตามพระราชดำริขึ้น ในโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ตามแผนพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร (๒๕๔๐ - ๒๕๔๔) ดังต่อไปนี้
โครงการส่งเสริมโภชนาการและสุขภาพอนามัยแม่และเด็กในถิ่นทุรกันดาร
โรงเรียนอยู่ในพื้นที่ ๓ คือ พื้นที่ปกติ เป็นพื้นที่ที่มีสถานบริการสาธารณสุขอยู่ใกล้ รัศมีไม่เกิน
๑๕ กิโลเมตร ประชาชนสามารถเดินทางไปรับบริการได้ตลอดปี ปีการศึกษา ๒๕๔๑
จำนวนหญิงตั้งครรภ์ในพื้นที่ ๔ คน มีเด็กอายุ ๐ - ๓ ปี ๑๑ คน (ชาย ๗ คน หญิง ๔ คน)
การดูแลหญิงมีครรภ์ - แนะนำให้ฝากครรภ์ที่สถานีอนามัยห้วยไผ่ ๔ คน/ครั้ง/เดือน | |
- ให้ความรู้ตามโภชนาการ ๔ คน/ครั้ง/เดือน | |
- จ่ายยาเม็ดเสริมธาตุเหล็ก ๔ คน/ทุกเดือน | |
- แนะนำการวางแผนครอบครัว ๔ คน | |
- ให้สุขศึกษา ๔ คน/ครั้ง/เดือน | |
การดูแลเด็ก ๐ - ๓ ปี - ชั่งน้ำหนัก ๑๑ คน ๓ เดือน/ครั้ง | |
- กระตุ้นให้เลี้ยงด้วยนมแม่ ๑๑ คน | |
แหล่งอ้างอิง : สำนักงานโครงการส่วนพระองค์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี.(๘๙)(พล. ท๑ ส๖๕๒๗ ๒๕๔๒)