![]() |
![]() |
ประวัติโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านน้ำฉา
โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านน้ำฉา หมู่ที่ ๕ บ้านน้ำฉา ตำบลครน อำเภอสวี จังหวัดชุมพร
โรงเรียนจัดตั้งเมื่วันที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๑๙โดยการนำของนายพล จันทร์อาภา กำนันตำบลครนสมัยนั้น เนื่องจากราษฎรมีความเดือดร้อนเกี่ยวกับการศึกษาของบุตร - หลาน เพราะหมู่บ้านอยู่ห่างจากโรงเรียนประถมศึกษามาก และการคมนาคมก็ไม่สะดวก ราษฎรในพื้นที่จึงได้ร้องขอไปยังผู้กำกับการตำรวจตระเวนชายแดนเขต ๘ (เดิม) เพื่อก่อตั้งเป็นโรงเรียนไกลคมนาคม โดยผู้ใหญ่บ้าน (ขณะนั้น) และราษฎรในพื้นที่ บริจาคที่ดินให้ จำนวน ๑๐ ไร่ วันที่ ๕ กันยายน ๒๕๒๒ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เสด็จฯ เยี่ยมโรงเรียน ต่อมาปี พ.ศ.๒๕๒๔ราษฎรในพื้นที่ ร่วมกันบริจาคและสร้างอาคาร ๑ หลัง ขนาด ๖ x ๒๔ เมตร และในปี พ.ศ.๒๕๒๘ สมาคมสตรีมหาพฤฒาราม บริจาคเงิน จำนวน ๑๒๐,๐๐๐ บาท เพื่อสร้างอาคาร ๑ หลัง ซึ่งเป็นหลังที่ ๒ โรงเรียนมีพื้นที่ทั้งหมด ๑๐ ไร่
สภาพทั่วไปของหมู่บ้าน
เป็นที่ราบสูงเชิงเขา ที่ดินส่วนใหญ่เป็นที่ปฏิรูปเพื่อการเกษตรกรรม (ส.ป.ก. ๔ - ๐๑) ตั้งอยู่ห่างจากอำเภอสวี ประมาณ ๑๗ กิโลเมตร พืชเศรษฐกิจที่สำคัญ ได้แก่ กาแฟ ยางพารา ทุเรียน
การคมนาคม
มีถนนสายหลักเข้าออกหมู่บ้านเป็นถนนลาดยางแต่ไม่มีรถโดยสารประจำทาง ประชาชนส่วนใหญ่ใช้รถส่วนตัวในการเดินทาง
จำนวนประชากร
มีประชากร ๖๖๗ คน เป็นชาย ๓๓๘ คน หญิง ๓๒๙ คน
การประกอบอาชีพ
ประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม พืชที่ปลูกได้แก่ กาแฟ ยางพารา มะพร้าว และผลไม้ต่างๆ
ผู้นำหมู่บ้าน
นายสุนันท์ เมืองสวี ผู้ใหญ่บ้าน/กำนัน
ข้อมูลทั่วไปหมู่บ้านใกล้เคียง
สภาพโดยรวมทั่วๆ มีลักษณะคล้ายคลึงกัน
ปัญหาของหมู่บ้าน
ขาดแคลนน้ำดื่ม - น้ำใช้
ระบบการศึกษา
โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านน้ำฉา เป็นโรงเรียนที่ตั้งขึ้นในสังกัดกรมตำรวจ พื้นที่รับผิดชอบของกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ ๔๑ จังหวัดชุมพร กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน
โรงเรียนเปิดทำการสอนตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๑๙ โดยรับเด็กจากหมู่บ้านน้ำฉา ทุ่งระยะ ช่องงาย ดำเนินการสอนเป็น ๒ ภาคเรียน ดังนี้
- ภาคเรียนที่ ๑เปิด ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๔๐
- ภาคเรียนที่ ๒เปิด ๓ พฤศจิกายน ๒๕๔๐
อาคารสถานที่และสิ่งอำนวยความสะดวก
ทางโรงเรียนมีอาคารและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ดังนี้
|
จำนวนครูและนักเรียน
เมื่อเริ่มก่อตั้ง มีนักเรียน ๖๑ คน มีครูตำรวจตระเวนชายแดน ๔ นาย
ปัจจุบันมีนักเรียน ๖๘ คน เป็นชาย ๔๔ คน หญิง ๒๔ คน มีครูตำรวจตระเวนชายแดน ๘ นาย
ตารางแสดงจำนวนและคุณวุฒิ
|
ตารางแสดงจำนวนนักเรียน ปีการศึกษา ๒๕๔๐
|
โครงการตามพระราชดำริที่โรงเรียนดำเนินการอยู่
เพื่อเป็นการพัฒนาเด็กและเยาวชนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารีทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ดำเนินงานโครงการตามพระราชดำริขึ้น ในโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ตามแผนพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร (๒๕๔๐ - ๒๕๔๔) ดังต่อไปนี้
โครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน
ครูผู้รับผิดชอบ คือ จ.ส.ต.สอาด สังข์ทองจีน, ส.ต.ต.วิลาศ กลัดบ้านห้วย
ผู้ดำเนินงานโครงการฯ คือ ครู นักเรียน ผู้ปกครองนักเรียน
หน่วยงานที่ให้การสนับสนุน
เกษตรอำเภอสวี ประมงจังหวัดชุมพร
แหล่งน้ำที่ใช้ในการเกษตร บ่อน้ำบาดาล
แหล่งน้ำใช้สำหรับดื่ม บ่อน้ำบาดาล
ผลผลิตทางการเกษตร ระหว่างเดือนพฤษภาคม ๒๕๓๙ ถึงเดือนมีนาคม ๒๕๔๐
|
หมายเหตุ คำอธิบายการแปลผล/เกณฑ์
> ๗๕% = ดีมาก
> ๕๐% - ๗๕% = ดี
> ๒๕% - ๕๐% = พอใช้
< ๒๕% = ปรับปรุง
ปัจจุบันมีการประกอบเลี้ยง ๕ ครั้ง/สัปดาห์
ผู้ประกอบเลี้ยง คือ ผู้ปกครองนักเรียน
การเฝ้าระวัง มีนักเรียนที่มีภาวะต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน จำนวน ๑๐ คน
โรงเรียนได้รับการสนับสนุนค่าอาหารกลางวันจากกระทรวงศึกษาธิการ โดยได้รับในอัตรา ๕ บาท/คน/วัน รวมได้รับเงินค่าอาหารเดือนละ ๖,๘๐๐ บาท และได้รับอาหารเสริมปีการศึกษา ๒๕๓๙ - ๒๕๔๐ดังนี้
๑. นมสด UHT จาก สำนักพระราชวัง จำนวน ๑,๒๓๔ กล่อง
๒. นมผง จาก สำนักพระราชวัง จำนวน ๑๐ กิโลกรัม
๓. แป้งถั่วเหลือง จาก สำนักพระราชวัง จำนวน ๑๕๐ กิโลกรัม
๔. นมสด UHT จาก สาธารณสุข จำนวน ๒๐๐ กล่อง
การให้อาหารเสริม มีการดำเนินการ
๑. นมสด UHT ให้นักเรียนที่น้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานดื่ม วันละ ๑ กล่อง
๒. นมผง ให้นักเรียนดื่มทุกวันจันทร์ และพุธ
๓. นมถั่วเหลือง ให้นักเรียนดื่มทุกวันอังคาร พฤหัสบดี และศุกร์
อัตราการมีน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์ (ปีการศึกษา ๒๕๓๙ ครั้งที่ ๒)
|
|
รายการสิ่งของพระราชทาน
ปีการศึกษา ๒๕๓๙
๑. แป้งถั่วเหลือง ๓ งวด จำนวน ๑๒๕ กิโลกรัม
๒. น้ำตาลทราย ๓ งวด จำนวน ๑๒๕ กิโลกรัม
๓. นมผง ๒ งวด จำนวน ๑๕๐ กิโลกรัม
๔. นมถั่วเหลืองแลคตาซอย ๑ งวด จำนวน ๗๓ หีบ
๕. เมล็ดพันธุ์ผัก ๒ งวด จำนวน ๒ ชุด
ปีการศึกษา ๒๕๔๐
๑. แป้งถั่วเหลือง ๑ งวด จำนวน ๒๕ กิโลกรัม
๒. น้ำตาลทราย ๑ งวด จำนวน ๒๕ กิโลกรัม
๓. นมผง ๑ งวด จำนวน ๕๐ กิโลกรัม
๔. เมล็ดพันธุ์ผัก ๑ งวด จำนวน ๒ ชุด
แหล่งอ้างอิง : สำนักงานโครงการส่วนพระองค์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี.(๓๖) (ใต้ ท๑ ส๖๕๒๖๒ ๒๕๔๐)