ประวัติความเป็นมาโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านคอกอ้ายเผือก
โรงเรียนตำรวจตระเวรชายแดนบ้านคอกอ้ายเผือก ตั้งอยู่ที่ หมู่ ๒ ตำบล ไชยราช อำเภอบางสะพานน้อย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พิกัด เอ็น เอ็น ๓๓๕๑๗๐ อยู่ในความรับผิดชอบของกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ ๑๔ ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๘ โดยความร่วมมือ ร่วมใจของราษฎรบ้านคอกอ้ายเผือกที่เห็นความสำคัญของการศึกษา เพื่อต้องการให้บุตรหลานมีความรู้ความสามารถอ่านออกเขียนได้ ซึ่งเดิมนักเรียนในหมู่บ้านต้องเดินทางไปเรียนที่โรงเรียนบ้านไชยราช เป็นระยะทางถึง ๕ กิโลเมตร ได้รับความลำบากในการเดินทางในช่วงฤดูฝนเป็นอย่างมาก ซึ่งระหว่างทางจะมีลำห้วยขวางกั้นถึง ๒ แห่ง เวลาฝนตกหนักน้ำหลากมาก เป็นที่ลำบากต่อการเดินทางไปโรงเรียน และนอกจากนี้ระหว่างทาง มีสภาพเป็นป่าปกคลุมตลอดเส้นทาง ผู้ปกครองเกรงว่าบุตรหลานจะมีอันตราย ดังนั้นประชาชนในหมู่บ้านคอกอ้ายเผือก นำโดยนายชด ทารส ผู้ใหญ่บ้าน จึงทำหนังสือร้องขอให้ทางกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนเขต ๗ (กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ ๑๓ ในปัจจุบัน) อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ดำเนินการจัดตั้งโรงเรียน โดยมีนายบุญ เกาะแก้ว เป็นผู้บริจาคที่ดินให้ จำนวน ๑๕ ไร่ และประชาชนได้ร่วมมือการก่อสร้างอาคารเรียนชั่วคราวหลังคามุงหญ้าคาขึ้นมา ๑ หลัง ขนาด ๘.๕๐ x ๑๔ เมตร แบ่งออกเป็น ๔ ชั้นเรียน ดำเนินการก่อสร้าง เมื่อ ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๑๘ ต่อมาเมื่อ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๑๘ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนได้อนุมัติให้เปิดโรงเรียนทำการสอนได้ โดยกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนเขต ๗ ได้ส่งตัวครูเข้าไปทำการสอนจำนวน ๒ นาย คือ ส.ต.ท. เดชา ครุฑเผือก ทำหน้าที่ครูใหญ่ และพลฯ ไพรัช น้อยนพคุณ เป็นครูสอน และได้เปิดทำการสอนเมื่อ ๕ มิถุนายน ๒๕๑๘ โดยมี ร.ต.ต. บุญเลิศ จอกกระจาย ผู้บังคับหมวดตำรวจตระเวนชายแดนที่ ๗๑๑ เป็นผู้ทำพิธีเปิด มีนักเรียนตั้งแต่ชั้นประถมปีที่ ๑ ประถมปีที่ ๔ จำนวนนักเรียนรวม ๔๑ คน เป็นชาย ๒๒ คน หญิง ๑๙ คน หลังจากดำเนินการจัดตั้งโรงเรียนแล้ว ได้มีการปรับปรุงโรงเรียนในด้านต่าง ๆ เพื่อดำเนินการให้โรงเรียนมีความเจริญก้าวหน้าขึ้นตลอดมา
ระบบการศึกษา
โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านคอกอ้ายเผือก เป็นโรงเรียนที่ตั้งขึ้น ในสังกัดของกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ ๑๔ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดทำการสอน ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๑๘ โดยรับเด็ก จากหมู่บ้านคอกอ้ายเผือก และหมู่บ้านใกล้เคียง ดำเนินการสอนเป็น ๒ ภาคเรียน ดังนี้
- ภาคเรียนที่ ๑ เปิด ๑๖ พฤษภาคม ถึง ๓๐ กันยายน
- ภาคเรียนที่ ๒ เปิด ๑ พฤศจิกายน ถึง ๓๑ มีนาคม
หลักสูตรที่ใช้ คือ หลักสูตรของ สำนักการประถมศึกษาแห่งชาติ ดำเนินการสอนโดยครูตำรวจตระเวนชายแดน เมื่อจบการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ จะได้รับหลักฐานแสดงผลการเรียน (ป.๐๕) นักเรียนที่จบการศึกษาสามารถ เข้าไปศึกษาต่อในชั้นสูงขึ้น ในสถาบันการศึกษาของรัฐแห่งอื่น ๆ ได้
การดำเนินการตามโครงการตามพระราชดำริ
โครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน
เริ่มดำเนินโครงการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๒๔ โดยมีวัตถุประสงค์ของโครงการ เพื่อให้นักเรียนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีอาหารกลางวันที่มีคุณค่าทางโภชนาการ บริโภคตลอดช่วงการศึกษา โดยใช้ผลผลิตทางการเกษตร ที่ผลิตขึ้นเองภายในโรงเรียนมาประกอบอาหาร และได้รับความรู้ทางด้านการเกษตรแผนใหม่ ที่สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งมีหน่วยงานต่าง ๆ ร่วมรับผิดชอบ และให้การสนับสนุนโครงการ เป็นต้นว่า วิทยาลัยเกษตรกรรมจังหวัดเพชรบุรี สำนักงานเกษตรจังหวัด ประจวบคีรีขันธ์ สำนักงานเกษตรอำเภอบางสะพานน้อย สำนักงานประมงจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สำนักงานประมงอำเภอบางสะพาน และ สำนักงานส่งเสริมเกษตรภาคตะวันตก ราชบุรี เป็นต้น
ครูผู้รับผิดชอบโครงการ สิบตำรวจโท ประดิษฐ์ อะละมาลา
ผู้ดำเนินโครงการ นักเรียนและผู้ปกครอง
ผลการดำเนินโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวันปัจจุบัน ดังนี้
๑. พื้นที่ในการดำเนินงาน จำนวน ๔๗ แปลง
๑.๑ ปลูกพืชผัก
-คะน้า ๖ แปลง -กวางตุ้ง ๙ แปลง
-ผักบุ้งจีน ๙ แปลง -ถั่วพู ๑๐ แปลง
-ตำลึง ๗ แปลง -ผักกาดหัว ๒ แปลง
-กะหล่ำปลี ๔ แปลง -แฟง ๑ ร้าน
-ผักหวาน ๒๐ ต้น -เห็ดนางฟ้า ๕๐๐ ก้อน
๑.๒ ปลูกไม้ผล จำนวน ๒๕๒ ต้น
-มะม่วง ๔๐ ต้น -ขนุน ๒๕ ต้น
-มะพร้าว ๗๐ ต้น -กล้วย ๘๐ กอ
-มันเทศ ๔๓ ร่อง -มะม่วงหิมพาน ๓๗ ต้น
๒. ประเภทสัตว์เลี้ยง ๔ ชนิด
-ไก่พันธุ์ไข่ (พันธุ์ผสม ๓ สายพันธุ์) จำนวน ๕๐ ตัว
-ไก่พันธุ์พื้นเมือง จำนวน ๒๐ ตัว
-สุกร จำนวน ๓ ตัว
-ปลาดุก จำนวน ๑,๐๐๐ ตัว
๓. กระทรวงศึกษาธิการสนับสนุนเงินอุดหนุนโครงการอาหารกลางวัน ( ๕ บาท/วัน/คน) โรงเรียนตำรวจตระเวรชายแดนบ้านคอกอ้ายเผือก ได้รับจัดสรร ดังนี้
๓.๑ เดือน พฤษภาคม ๒๕๓๗ ถึง เดือน กันยายน ๒๕๓๗ จำนวน ๑๐๗,๖๗๐ บาท
๓.๒ เดือน ตุลาคม ๒๕๓๗ ถึง เดือน มีนาคม ๒๕๓๘ จำนวน ๑๑๑,๐๐๐ บาท
โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านคอกอ้ายเผือก มีการประกอบอาหารกลางวัน ๕ ครั้ง ต่อสัปดาห์ โดยนำผลผลิตจากโรงเรียนและจัดซื้อเครื่องปรุงจากเงินอุดหนุนโครงการ โดยให้นักเรียนและผู้ปกครอง เป็นผู้ประกอบอาหาร นอกจากนั้นยังประกอบน้ำนมถั่วเหลือง เป็นอาหารเสริมให้กับนักเรียนดื่ม ๓ ครั้งต่อสัปดาห์
การประกอบเลี้ยงอาหารกลางวัน (แต่ พ.ค. – ธ.ค. ๓๗)
|
แผนการประกอบอาหารเสริมในรอบสัปดาห์
|
ตารางเปรียบเทียบการประกอบอาหารเลี้ยง
|
ตารางแสดงภาวะโภชนาการนักเรียนปีการศึกษา ๒๕๓๔ - ๒๕๓๗
|
แหล่งอ้างอิง : กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ ๑๔. (๔๕) (ปข. ท๑ ส๖๔๒๒ ๒๕๓๘)